ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จัดหวัดภูเก็ตเร่งบูรณาการทุกภาคส่วนกำหนดมาตรการด้านการป้องกันเยาวชนกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษา อายุตั้งแต่ 13-18 ปี ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติดรวมทั้งการมั่วสุมของกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุระหว่า 13-18 ปีซึ่งอยู่นอกระบบสถานศึกษาว่า ตามยุทธศาสตร์การป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดปี 2551 วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดของกลุ่มประชากรช่วงอายุ 13-18 ปี ที่อยู่นอกสถานศึกษาเป็นประชากรที่มีอัตราเสี่ยงสูงต่อปัญหายาเสพติดและเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ง่ายต่อการเข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีปัญหาสลับซับซ้อนเข้าไปมั่วสุมตามแหล่งมั่วสุมต่างๆ ใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์ เที่ยวเตร่เวลากลางคืน ติดเกม ติดพนัน หนีเรียน มอเตอร์ไซค์ซิ่ง ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ฯลฯ โดยเยาวชนแต่ละคนจะมีปัญหาหลายอย่างที่จะต้องแก้ไข โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำผิดเรื่องยาเสพติดกับการกระทำผิดในคดีอาญาอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการบูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการร่วมกำหนดมาตรการด้านป้องกันกลุ่มเสี่ยง มิให้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตลอดจนวางระบบให้มีข้อมูลปัญหายาเสพติดเยาวชนนอกสถานศึกษา ลดปัจจัยลบ สร้างปัจจัยเชิงบวก บังคับใช้กฎหมาย และมาตรการทางการปกครอง สร้างความตื่นตัว และการมีส่วนร่วมของชุมชนในสังคม เฝ้าระวังดูแลปัญหายาเสพติดรวมทั้ง เป็นการสร้างภูมิต้านทางยาเสพติดให้แก่ประชาชนทั่วไป กลุ่มเยาวชนนอกสถานศึกษา และส่งเสริมสนับสนุน ให้มีการรวมกลุ่ม พัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ด้วยการเสริมพื้นที่ และปัจจัยบวกควบคุม และขจัดพื้นที่เสี่ยง
นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ปัญหายาเสพติดรวมทั้งการมั่วสุมของกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุระหว่า 13-18 ปีซึ่งอยู่นอกระบบสถานศึกษาว่า ตามยุทธศาสตร์การป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดปี 2551 วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดของกลุ่มประชากรช่วงอายุ 13-18 ปี ที่อยู่นอกสถานศึกษาเป็นประชากรที่มีอัตราเสี่ยงสูงต่อปัญหายาเสพติดและเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ง่ายต่อการเข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีปัญหาสลับซับซ้อนเข้าไปมั่วสุมตามแหล่งมั่วสุมต่างๆ ใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์ เที่ยวเตร่เวลากลางคืน ติดเกม ติดพนัน หนีเรียน มอเตอร์ไซค์ซิ่ง ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ฯลฯ โดยเยาวชนแต่ละคนจะมีปัญหาหลายอย่างที่จะต้องแก้ไข โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำผิดเรื่องยาเสพติดกับการกระทำผิดในคดีอาญาอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการบูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการร่วมกำหนดมาตรการด้านป้องกันกลุ่มเสี่ยง มิให้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตลอดจนวางระบบให้มีข้อมูลปัญหายาเสพติดเยาวชนนอกสถานศึกษา ลดปัจจัยลบ สร้างปัจจัยเชิงบวก บังคับใช้กฎหมาย และมาตรการทางการปกครอง สร้างความตื่นตัว และการมีส่วนร่วมของชุมชนในสังคม เฝ้าระวังดูแลปัญหายาเสพติดรวมทั้ง เป็นการสร้างภูมิต้านทางยาเสพติดให้แก่ประชาชนทั่วไป กลุ่มเยาวชนนอกสถานศึกษา และส่งเสริมสนับสนุน ให้มีการรวมกลุ่ม พัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ด้วยการเสริมพื้นที่ และปัจจัยบวกควบคุม และขจัดพื้นที่เสี่ยง