ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บุรีรัมย์หลากหลายความเห็น “จำเลยแม้ว” กลับบ้านมาสู้คดีหลังเร่ร่อนมานานกว่า 1 ปี ส่วนมากเห็นด้วยให้อดีตนายกฯกลับมาแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง เตือนอย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและสื่อทำให้ประเทศชาติเกิดความวุ่นวายแน่
วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้สำรวจความคิดเห็นในบุคคลหลากหลายกลุ่มสาขาอาชีพใน จ.บุรีรัมย์ พบว่า ต่างเห็นด้วยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศมาต่อสู้คดี เพื่อให้จบสิ้นให้หายความสงสัยของประชาชน นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ แต่การกลับมาสู้คดีในครั้งนี้ขอให้รัฐบาล หรือกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี อย่าได้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และแทรกแซงสื่อ ซึ่งจะก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมาในภายหลัง
รวมทั้งไม่ว่าผลการพิจารณาตัดสินคดีของกระบวนการยุติธรรมจะออกมาเป็นอย่างไรก็ขอให้ทุกฝ่ายเคารพและยอมรับคำตัดสินนั้นไม่ควรที่จะลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวหรือต่อต้าน เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์โดยเร็ว
นายเด่น สมานมิตร อดีตผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในความรู้สึกส่วนตัวเห็นด้วยที่อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาสู้คดีแสดงความบริสุทธิ์ที่ได้ถูกกล่าวหา เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่ประชาชน หากไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความวุ่นวาย กระทบกับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนอยู่เรื่อยไป แต่ไม่ควรที่จะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือสื่อ ที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก ซึ่งหากมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม บิดเบือนคดี ประชาชน และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ติดตามดูอยู่ และจะลุกขึ้นมาต่อต้านอีก
นายบัวสอน นาสาธร อายุ 39 ปี อาชีพขับมอเตอร์ไซค์วินรับจ้างที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า เห็นด้วยที่อดีตนายกฯทักษิณ กลับมาสู้คดี เพราะที่ผ่านมาอาชีพขับมอเตอร์ไซค์วินรับจ้างไม่มีเงินเดือนประจำได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจมาโดยตลอด การเมืองไม่นิ่ง ค่าครองชีพสูง น้ำมันปรับขึ้นราคา เชื่อว่า หากการต่อสู้คดีของอดีตนายกฯ สิ้นสุดลง ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติ เชื่อเศรษฐกิจจะดีขึ้น
ด้าน นายบุญสม ผ่องบุพกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เห็นด้วยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาต่อสู้คดีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังหลบไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนมานานกว่า 1 ปี สร้างความสับสนให้กับประชาชน นักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งการเดินทางกลับมาต่อสู้คดีนั้น เชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมจะดำเนินไปอย่างถูกต้องเป็นธรรม ไม่ถูกแทรกแซงจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และเมื่อศาลได้พิจารณาตัดสินคดีแล้วทุกฝ่ายก็ควรให้การยอมรับ เชื่อมั่นใจว่า คนไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจในกฎกติกา
โดยในช่วงนี้ทุกคนน่าจะมาช่วยกันพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจะดีกว่า เมื่ออดีตนายกฯเดินทางกลับมาสู้คดีแล้วก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และทุกฝ่ายไม่ควรออกมาเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย ทำให้ขาดความเชื่อมั่นกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอีก
ส่วนหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จะมีการแทรกแซงสื่อ และกระบวนการยุติธรรมระหว่างการต่อสู้คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ไม่น่าจะทำได้ เชื่อว่า ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมเป็นสถาบันชั้นสูง การพิจารณาต้องเป็นไปตามกระบวนการ และบริสุทธิ์ยุติธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว
