xs
xsm
sm
md
lg

อัดรัฐบาล “หมัก” ย้าย “ปราโมช” นำ กปส.สู่ยุคมืด - NGOs เตือนลุแก่อำนาจประชาชนรับไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ รัฐบาลเช็กบิล “ปราโมช” จะนำกรมประชาสัมพันธ์เข้าสู่ยุคมืด และถูกครอบงำสมบูรณ์แบบ ขณะที่ NGOs รุ่นใหญ่อัดรัฐบาลสั่งปลด-ย้าย ข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม เพราะไม่ให้โอกาสทำงาน เตือนอย่าย่ามใจ และลุแก่อำนาจ เมื่อถึงจุดหนึ่งประชาชนรับไม่ได้จะเกิดการต่อต้านแน่นอน

นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลงนามโยกย้าย นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดหมาย และไม่ใช่เหตุผลที่ว่าจะให้นายปราโมชไปรับผิดชอบงานสถานีโทรทัศน์อาเซียนอย่างที่อ้าง แต่เป็นการเช็กบิลตามคำประกาศเดิมที่ นายจักรภพ พูดไว้ตอนเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ถือว่ากรมประชาสัมพันธ์เข้าสู่ยุคมืดที่ถูกฝ่ายการเมืองเข้าไปครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้งหนึ่ง

นายอภิชาต กล่าวว่า การโยกย้าย นายปราโมช เป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล คำถามต่อนายจักรภพ ก็คือ เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร ทำไมต้องมาทำในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยด้วย เป็นการประกาศศักดาของรัฐบาลในการเข้ามาแทรกแซงและควบคุมสื่ออย่างเบ็ดเสร็จใช่หรือไม่

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อตอนต้นสัปดาห์ นายจักรภพ ไปประชุมให้นโยบายกับกรมประชาสัมพันธ์ ระบุว่า จะปรับปรุงสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ครั้งใหญ่ โดยย้ำว่าจะให้สื่อทั้งหมดของกรมประชาสัมพันธ์ที่มีสถานีโทรทัศน์ในภูมิภาค 12 สถานี วิทยุ 140 คลื่น ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล และยังจะขยายเครือข่ายไปดึงวิทยุชุมชน และเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั้งหมดเข้ามาเป็นเครือข่ายรับข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์เพียงแหล่งเดียวไปเผยแพร่ ทราบข่าวว่า เรื่องนี้มีการล็อกสเปกจะให้อดีตพนักงานสถานีโทรทัศน์กลุ่มหนึ่งจัดตั้งบริษัทเพื่อรับงานผลิตข่าวและเนื้อหาป้อนกรมประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะด้วย

นายอภิชาต กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยังมีความพยายามที่จะนำสื่อในเครือกรมประชาสัมพันธ์ไปทำธุรกิจ ให้มีโฆษณาในช่อง 11 มีการบริหารจัดการคลื่นวิทยุและโทรทัศน์ทั้งหมดโดยรวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์จะกลายเป็นแหล่งทำมาหากินของนักธุรกิจสื่อไปในที่สุด และแนวคิดเรื่องจะให้ช่อง 11 เป็นทีวีสาธารณะของรัฐบาลที่จะทำหน้าที่อย่างสมดุล รอบด้าน ก็เป็นเรื่องเพ้อฝัน

นายบรรจง นะแส เลขาธิการ กป.อพช.ภาคใต้ กล่าวถึงผลงานของรัฐบาลในช่วงระยะเวลาเพียงไม่นานแต่กลับมีการสั่งปลดข้าราชการถึง 4 คนแล้ว ว่า โดยหลักการแล้วรัฐบาลได้รับการเลือกตั้งเข้ามามีนโยบายเป็นตัวตั้งสำหรับบริหารประเทศ ส่วนข้าราชการทำหน้าที่เป็นกลไกในการนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง หากข้าราชการไม่ตอบสนองนโยบาย รับบาลก็มีความชอบธรรมที่จะปลด หรือสั่งย้าย

“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้รัฐบาลกำลังย้าย หรือปลดข้าราชการโดยไม่เป็นธรรม เนื่องจากภายหลังมีการแถลงนโยบายวันแรก ก็มีการสั่งปลดอธิบดี DSI ในทันที รัฐบาลรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ทำตามนโยบาย แสดงว่า มีการสั่งปลดโดยการใช้ความรู้สึกส่วนตัว เป็นการย่ามใจในอำนาจ ไม่ใช่กระทำโดยหลักการปกครองที่ถูกต้อง อาจเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรืออาจเป็นการแก้แค้นข้าราชการในยุคที่มีการรัฐประหาร เนื่องจากไปปฏิบัติหน้าที่กระทบกับคนในรัฐบาลไทยรักไทย เก่า เป็นประกระทำโดยไม่ให้โอกาสข้าราชการได้ปฏิบัติหน้าที่”

นายบรรจง กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลหากไม่สามารถอธิบายเหตุผลให้ประชาชนเข้าใจได้ชัดเจนสังคมก็จะไม่ยอมรับ และถึงจุดหนึ่งก็จะเกิดการต่อต้านรัฐบาลในที่สุด

“รัฐบาลอย่าคิดว่ามีอำนาจแล้วจะทำอะไรก็ได้เพราะตัวอย่างที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประชาชนไม่ยอมรับ” นายบรรจง กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น