xs
xsm
sm
md
lg

คนปากนครยันห้ามเปลี่ยนชื่อ ร.ร.“ท่านครญาณวโรกาส” เป็น “เทพศิรินทร์” เด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช-นายก อบต.ปากนคร นำทีมบุกโรงเรียนท่านครญาณวโรกาส อุทิศ ประท้วงคัดค้านเปลี่ยนชื่อโรงเรียนจาก “ท่านครญาณวโรภาส อุทิศ” เป็น “เทพศิรินทร์” อ้างเป็นชื่อเดิมที่ระลึกถึง ให้เกรียติเจ้าของที่ดิน ส่วนคณะครู-นักเรียนเห็นด้วย

วันนี้ (15 ก.พ.) ที่โรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีพ่อ แม่ ผู้ปกครองนักเรียน กว่า 150 คน นำโดย นายกิตติพงศ์ จัตุรงค์ นายก อบต.ปากนคร พร้อมด้วย รองนายก อบต.และสมาชิก อบต.ปากนคร รวมทั้งสมาชิก อบต.ท่าไร่ อ.เมือง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มารวมตัวประท้วง บริเวณลานหน้าเสาธงของโรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ เพราะไม่เห็นด้วยกับการที่ นายสุจินต์ พิมเสน ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมคณะครูโรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ ตกลงกับทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ ที่จะให้โรงเรียนท่านครฯ เป็นโรงเรียนเครือข่าย ของโรงเรียนเทพศิรินทร์ และเปลี่ยนชื่อจาก โรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ มาเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์

โดยบรรดาผู้ปกครองได้ติดตั้งเครื่องขยายเสียง และปราศรัยโจมตี นายสุจินต์ อย่างหนัก และผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย กล่าวหาว่า นายสุจินต์ ดำเนินการเรื่องนี้ โดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ผู้ปกครองทราบก่อน เป็นการรวบรัดมัดมือชก

ผู้ปกครองนักเรียนไม่เห็นด้วย เพราะการก่อตั้งโรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ เมื่อปี 2534-2534 นั้น ผู้ปกครองได้ร่วมกับคณะอาจารย์ 2-3 คน ดำเนินการไปที่ดินตั้งโรงเรียนจากพระครูญาณวโรภาส เจ้าอาวาสวัดท่านคร จำนวน 36 ไร่

ท่านพระครูญาณวโรภาส ก็อุทิศที่ดินให้ เพราะเห็นแก่การศึกษาของบุตรหลานในละแวกใกล้เคียง ที่ไม่มีโรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษาระดับมัธยมในพื้นที่ นอกจากนี้ได้รับการอุทิศที่ดินของวัดโบสถ์อีก 4 ไร่ รวมที่ดินที่ใช้ก่อสร้างโรงเรียนแห่งนี้ 40 ไร่

“เมื่อก่อนบริเวณนี้ เป็นป่ารกทึบ พ่อแม่ผู้ปกครองได้ช่วยกันพัฒนา แผ้วถาง และบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยในการปรับปรุงพื้นที่ จนสามารถตั้งโรงเรียนได้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระครูญาณวโรภาส ที่อุทิศที่ดินให้สร้างโรงเรียน คณะผู้ก่อตั้งจึงมีมติให้ใช้ชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนท่านครูญาณวโรภาส อุทิศ” ทำการเรียนการสอนมาจนมีชื่อเสียง จนถึงทุกวันนี้อยู่ๆ ผอ.จะมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียน “เทพศิรินทร์” เฉยๆ ไม่ได้”

ขณะที่ นายสุจินต์ พิมเสน ผอ.โรงเรียนท่านครญาณวโรภาส ลงมาพบ และชี้แจงกับผู้ประท้วง แต่ไม่เป็นผล แม้ นายสุจินต์ จะยืนยันว่า ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียน เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นในโครงการเท่านั้น ซึ่งต่อไปจะมีการเชิญผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 1,200 คน มาประชุมหารือ และลงมติกันอีกครั้งหนึ่งว่า จะเอาหรือไม่เอา

ในขณะที่ผู้ประท้วง อ้างว่า โครงการนี้ผู้ปกครองเพิ่งทราบทั้งๆ ที่ นายสุจินต์ ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว และได้เชิญ ผอ.โรงเรียนเทพศิรินทร์ มาร่วมปรึกษาหารือ และตกลงกันในหลักการเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) การดำเนินการทั้งหมด นายสุจินต์ น่าจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบและร่วมกันพิจารณามาตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ตาม การเจรจาชี้แจง มีการตอบโต้กันอย่างดุเดือดบริเวณลานหน้าเสาธง โดยทางผู้ปกครองไม่ยอมรับฟังการชี้แจงใดๆ ทิ้งสิ้น ทำให้บรรยากาศมีทีท่าว่า จะบานปลายกลายเป็นการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ในที่สุด นายสุจินต์ จึงกล่าวตัดบทว่า หากทางผู้ปกครองไม่เอาสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับบุตรหลานของตัวเอง ตนก็พร้อมที่จะยุติโครงการ ส่วนผู้ประท้วงกล่าวทิ้งท้ายว่า จะมารวมตัวกันอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.2551 นี้ เพื่อฟังคำตอบที่ชัดเจนจาก นายสุจินต์

จากนั้นจึงพากันสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว แม้ทางนักเรียนจำนวนมาก จะมารวมตัวกัน เพื่อขอชี้แจงกับผู้ประท้วงว่า นักเรียนส่วนใหญ่อยากให้โครงการโรงเรียนเครือข่ายเทพศิรินทร์ และการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ ดำเนินการต่อไป แต่ทางผู้ประท้วงไม่อยู่รอรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนแม้แต่น้อย

นายสุจินต์ พิมเสน กล่าวว่า เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เพราะโรงเรียนเทพศิรินทร์ เป็นโรงเรียนที่มีการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้โรงเรียนในเครือข่ายทั้งหมด 11 แห่งทั่วประเทศมีคุณภาพการศึกษาแบบเดียวกันเป็นเรื่องที่ดีมาก โดยโรงเรียนท่านคร ฯจะเป็นโรงเรียนเครือข่ายเทพศิรินทร์ แห่งที่ 11 นอกจากด้านวิชาการแล้วสิ่งดีๆ ในด้านอื่นๆ จะตามมาอีกมากมาย

นักเรียนทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงมารวมตัวกันเรียกร้องให้ นายสุจินต์ ดำเนินการตามโครงการนี้ต่อไป เพราะนักเรียนส่วนใหญ่ ได้นำเรื่องไปแจ้ง และชี้แจงข้อดีข้อเสียให้กับผู้ปกครองทราบแล้ว และผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ไม่ขัดข้อง

น.ส.ปรียานุช วัฒนสมัย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ในฐานะประธานนักเรียน โรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ กล่าวว่า ตนเข้าเรียนโรงเรียนนี้มาตั้งแต่ชั้น ม.1 จนในปัจจุบัน ม.5 แล้ว ตนและนักเรียนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการเป็นโรงเรียนเครือข่ายเทพศิรินทร์ และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์ เพราะหากโรงเรียนแห่งนี้ มีการพัฒนาทั้งวิชาการ และพัฒนาในทุกๆ ด้านเท่าเทียมกับโรงเรียนเทพศิรินทร์ เป็นเรื่องที่ดีและเป็นโอกาสของนักเรียนทั้งหมด

การเปลี่ยนชื่อไม่ใช่ว่า เราจะไม่รักไม่เคารพ พระครูญาณวโรภาส ซึ่งท่านอุทิศที่ดินให้ เรายังรักและระลึกถึงบุญคุณของท่านเสมอ และตลอดไป โดยโรงเรียนเทพศิรินทร์ จะสร้างหอเกียรติยศของท่านไว้ และบันทึกประวัติความเป็นมาของโรงเรียนไว้เหมือนเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่เปลี่ยนชื่อจากเดิมมาเป็น “เทพศิรินทร์” เท่านั้น

“หากแค่การเปลี่ยนชื่อทำให้เราได้สิ่งที่ดีกว่า โรงเรียนได้พัฒนาในทุกๆ ด้านก็น่าจะคุ้มค่า จึงอยากให้ผู้ปกครองเข้าใจด้วย และขอให้ทางผู้อำนวยการ และครูอาจารย์ดำเนินการโครงการนี้ต่อไป”

ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการมีความชัดเจน และเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย คณะครู อาจารย์ และสภานักเรียนโรงเรียนท่านครญาณวโรภาส อุทิศ จะเชิญผู้ปกครองของนักเรียนทุกคน รวมทั้งนักเรียน และครูอาจารย์ มาร่วมทำประชาพิจารณ์ เพื่อหาข้อยุติอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และเชื่อว่าประชามติเสียงส่วนใหญ่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นด้วยอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น