สุราษฎร์ธานี - สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่สุราษฎร์ธานี จับมือสำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 สุราษฎร์ธานี จัดกิจกรรม “สปสช.สานสัมพันธ์สื่อมวลชน” สร้างความสัมพันธ์อันดี พร้อมเผยแพร่ข้อมูลบริการสู่ประชาชน
ที่ห้องศรีวิชัย โรงแรมวังใต้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายแพทย์ภูมิวิชญ์ ขวัญเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่ สุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมงาน “สปสช.สานสัมพันธ์สื่อมวลชน” ซึ่งมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ จากพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ประกอบด้วย ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง และท้องถิ่น ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ นักจัดรายการวิทยุ ผู้บริหารสถานีวิทยุกระจายเสียง จุดปฏิบัติการเรียนรู้วิทยุชุมชนและหอกระจายข่าว เข้าร่วมประมาณ 70 คน
นางกุณฑลี บัวสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่สุราษฎร์ธานี กับสำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 ดำเนินกิจกรรม 2 โครงการ คือ โครงการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สานสัมพันธ์สื่อมวลชน
โครงการจัดประกวดแผนงานประชาสัมพันธ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพทั่วหน้าไปสู่ประชาชน โดยมีกิจกรรมแนะนำหน่วยงาน และผู้บริหารหน่วยงานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่ สุราษฎร์ธานี กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ และสร้างเครือข่าย
ด้าน นายแพทย์ภูมิวิชญ์ ขวัญเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่ สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีสาขาเขตพื้นที่ทั่วประเทศ 13 สาขา โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สาขาเขตพื้นที่สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ดูแลรับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ซึ่งมีงานประกันสุขภาพสาขาในจังหวัดชุมพร ระนอง กระบี่พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี
“ทั้งนี้ ด้วยบทบาท และหน้าที่ของงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงต้องมีการสร้างความเข้าใจต่อสิทธิพื้นฐานการรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และการบริการทางการแพทย์ จึงจัดโครงการ สปสช.สานสัมพันธ์สื่อมวลชนขึ้น
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริหาร สปสช.กับสื่อมวลชนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน รวมทั้ง เพื่อให้ผู้มีสิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข รวมทั้งรู้จักบริการสายด่วน สปสช.โทร.1330 เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวางต่อไป” นายแพทย์ภูมิวิชญ์ กล่าว
