ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สงขลาแชมป์ใช้บริการ บสย. นครศรีธรรมราชไล่บี้ตามหลัง นักลงทุน “หาดใหญ่” ขยายสาขาลงทุนใน 2 จังหวัดใหญ่ทั้งนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานีไปได้ดี แต่ในปีนี้ถือว่ายังต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 400 ล้านบาท แต่ทำได้เพียง 250 ล้านบาทเท่านั้น
นายประเสริฐ กองวัฒนานุกูล ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดูแล 8 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมาทาง บสย.ได้ค้ำประกันสินเชื่อ ทั้งสิ้น 44 โครงการ มูลค่าวงเงิน 253.29 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เป้าวาง 400 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้เป็นตัวช่วยในภาวะวิกฤตที่เข้าเกื้อหนุนให้แก่ผู้ประกอบการ ที่มีหลักทรัพย์ไม่พอเพียงในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน ในวงเงินตามที่ต้องการเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ
“จังหวัดสงขลาได้รับกรอนุมัติมากที่สุดถึง 18 โครงการ เป็นเงินกว่า 162 ล้านบาท รองลงมานครศรีธรรมราช 12 โครงการ เป็นเงินกว่า 52 ล้นบาท โดยยังคิดค่าธรรมเนียม 1.75 เปอร์เซ็นต์ / ปี ธุรกิจที่มาอันดับต้น คือทางด้านอาหาร อาหารทะเล น้ำดื่มบริโภคอุปโภค อุปกรณ์ไฟฟ้า ยาง โดยเฉพาะธุรกิจน้ำดื่ม จะขยายตัวมาก”
นายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า กิจการที่ขยายตัว ส่วนใหญ่เป็นการขยายสาขาจากหาดใหญ่ ไปลงทุนเปิดสาขายังจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี โดยกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้มีฐานการตลาดรองรับอยู่แล้ว จึงขยายสาขาการลงทุนไป ล้วนแต่กิจการไปได้ดี
“ปี 2551 บสย.ตั้งเป้ายอดค้ำประกันสินเชื่อไว้ที่ 375 ล้นบาท ลดลงกว่าปี 2550 ที่ตั้งเป้ายอดค้ำประกันไว้ที่ 400 ล้านบาท โดยทาง บสย.มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นที่จะเข้าค้ำประกัน แม้ว่าทางสถาบันการเงินให้สินเชื่อจะตรวจสอบลูกค้ามาอย่างรอบคอบแล้วก็ตาม สำหรับหนี้ที่ไม่สามารถจะชำระได้ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับกว่า 10 เปอร์เซ็นต์”
นายประเสริฐ กองวัฒนานุกูล ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ดูแล 8 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมาทาง บสย.ได้ค้ำประกันสินเชื่อ ทั้งสิ้น 44 โครงการ มูลค่าวงเงิน 253.29 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เป้าวาง 400 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้เป็นตัวช่วยในภาวะวิกฤตที่เข้าเกื้อหนุนให้แก่ผู้ประกอบการ ที่มีหลักทรัพย์ไม่พอเพียงในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน ในวงเงินตามที่ต้องการเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ
“จังหวัดสงขลาได้รับกรอนุมัติมากที่สุดถึง 18 โครงการ เป็นเงินกว่า 162 ล้านบาท รองลงมานครศรีธรรมราช 12 โครงการ เป็นเงินกว่า 52 ล้นบาท โดยยังคิดค่าธรรมเนียม 1.75 เปอร์เซ็นต์ / ปี ธุรกิจที่มาอันดับต้น คือทางด้านอาหาร อาหารทะเล น้ำดื่มบริโภคอุปโภค อุปกรณ์ไฟฟ้า ยาง โดยเฉพาะธุรกิจน้ำดื่ม จะขยายตัวมาก”
นายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า กิจการที่ขยายตัว ส่วนใหญ่เป็นการขยายสาขาจากหาดใหญ่ ไปลงทุนเปิดสาขายังจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี โดยกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้มีฐานการตลาดรองรับอยู่แล้ว จึงขยายสาขาการลงทุนไป ล้วนแต่กิจการไปได้ดี
“ปี 2551 บสย.ตั้งเป้ายอดค้ำประกันสินเชื่อไว้ที่ 375 ล้นบาท ลดลงกว่าปี 2550 ที่ตั้งเป้ายอดค้ำประกันไว้ที่ 400 ล้านบาท โดยทาง บสย.มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นที่จะเข้าค้ำประกัน แม้ว่าทางสถาบันการเงินให้สินเชื่อจะตรวจสอบลูกค้ามาอย่างรอบคอบแล้วก็ตาม สำหรับหนี้ที่ไม่สามารถจะชำระได้ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับกว่า 10 เปอร์เซ็นต์”