ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ภาวะเศรษฐกิจผันผวน ทั้งราคาน้ำมันทะยานปรับขึ้นอย่างบ้าคลั่ง การขาดแคลนวัตถุดิบในกิจการแปรรูปอาหารทะเล ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาทางด้านการเมืองจาก “รบ.นอมินี” ส่งผลให้การเติบโตของ SMEs ถดถอย บสย. เผยยอดค้ำประกันสินเชื่อภาคใต้ตอนล่างครึ่งปีแรก เหลือ 41.03 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่สูง 187.50 ล้านบาท
นายประเสริฐ กองวัฒนานุกูล ผู้ช่วยผู้จัดการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สำนักงานจังหวัดสงขลา ซึ่งรับผิดชอบดูแล 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งปี 2551 ว่า ได้ค้ำประกันสินเชื่อในครึ่งปีแรก เป็นวงเงิน 41.03 ล้านบาท จากเป้าครึ่งปี 187.50 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้มาก เหลือ 16 ราย จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 21 ราย ได้แก่ จ.สงขลา 11 ราย วงเงิน 21.00 ล้านบาทนครศรีธรรมราช 5 ราย วงเงิน 17.20 ล้านบาท ตรัง 2 ราย วงเงิน 0.90 ล้านบาท พัทลุง 2 ราย วงเงิน 0.38 ล้านบาท และยะลา 3 ราย วงเงิน 1.55 ล้านบาท ส่วน จ.สตูล ปัตตานี และนราธิวาส ยังไม่มีการค้ำประกันสินเชื่อแต่อย่างใด
ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประสบปัญหาความไม่สงบอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีแล้ว แต่ บสย.ก็ยังพยายามช่วยเหลือธุรกิจใน 3 จังหวัดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกได้ค้ำประกันให้แก่จังหวัดยะลา 3 ราย เป็นกิจการรับเหมาก่อสร้าง กิจการรับซื้อขายเศษยางพารา และกิจการผลิต/จำหน่ายยางแผ่นเครป ซึ่งหากวิเคราะห์แล้วกิจการยังมีศักยภาพ บสย.ก็จะเข้าค้ำประกันสินเชื่อที่ขอผ่านสถาบันการเงิน
นายประเสริฐ กล่าวถึงสาเหตุที่ยอดอนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ว่า เนื่องจากสถาบันการเงินมีการพิจารณาสินเชื่อที่ละเอียดและเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้ง บสย.เองก็ต้องมีการพิจารณาในเรื่องหลักเกณฑ์ และมองความเสี่ยงของแต่ละกิจการด้วย และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนก็ลดลงมาก อันเป็นเหตุมาจากความไม่เชื่อมั่นในหลายด้าน เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในกิจการแปรรูปอาหารทะเล ปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตาม บสย. สามารถที่จะใช้เป็นตัวช่วยในการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการที่ดี และยังมีความเป็นไปได้ในธุรกิจ แต่ขาดหลักประกัน โดยค้ำประกันเงินกู้หรือสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ ทำให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพากู้เงินนอกระบบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสถาบันการเงินและลูกค้าของธนาคารให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ควบคู่กับการจัดโครงการสัมมนาให้ความรู้ผู้ประกอบการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ เปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งในธุรกิจเดียวกันและต่างธุรกิจ และช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีขึ้น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ บสย.สำนักงานจังหวัดสงขลา เปิดดำเนินการมา 8 ปี ได้อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อไปแล้วทั้งสิ้น 1,285 ราย วงเงินอนุมัติ 2,235 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือภาระค้ำประกัน 545 ราย วงเงินภาระค้ำประกัน 976 ล้านบาท
นายประเสริฐ กองวัฒนานุกูล ผู้ช่วยผู้จัดการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สำนักงานจังหวัดสงขลา ซึ่งรับผิดชอบดูแล 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งปี 2551 ว่า ได้ค้ำประกันสินเชื่อในครึ่งปีแรก เป็นวงเงิน 41.03 ล้านบาท จากเป้าครึ่งปี 187.50 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้มาก เหลือ 16 ราย จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน 21 ราย ได้แก่ จ.สงขลา 11 ราย วงเงิน 21.00 ล้านบาทนครศรีธรรมราช 5 ราย วงเงิน 17.20 ล้านบาท ตรัง 2 ราย วงเงิน 0.90 ล้านบาท พัทลุง 2 ราย วงเงิน 0.38 ล้านบาท และยะลา 3 ราย วงเงิน 1.55 ล้านบาท ส่วน จ.สตูล ปัตตานี และนราธิวาส ยังไม่มีการค้ำประกันสินเชื่อแต่อย่างใด
ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประสบปัญหาความไม่สงบอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีแล้ว แต่ บสย.ก็ยังพยายามช่วยเหลือธุรกิจใน 3 จังหวัดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกได้ค้ำประกันให้แก่จังหวัดยะลา 3 ราย เป็นกิจการรับเหมาก่อสร้าง กิจการรับซื้อขายเศษยางพารา และกิจการผลิต/จำหน่ายยางแผ่นเครป ซึ่งหากวิเคราะห์แล้วกิจการยังมีศักยภาพ บสย.ก็จะเข้าค้ำประกันสินเชื่อที่ขอผ่านสถาบันการเงิน
นายประเสริฐ กล่าวถึงสาเหตุที่ยอดอนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ว่า เนื่องจากสถาบันการเงินมีการพิจารณาสินเชื่อที่ละเอียดและเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้ง บสย.เองก็ต้องมีการพิจารณาในเรื่องหลักเกณฑ์ และมองความเสี่ยงของแต่ละกิจการด้วย และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนก็ลดลงมาก อันเป็นเหตุมาจากความไม่เชื่อมั่นในหลายด้าน เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในกิจการแปรรูปอาหารทะเล ปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตาม บสย. สามารถที่จะใช้เป็นตัวช่วยในการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการที่ดี และยังมีความเป็นไปได้ในธุรกิจ แต่ขาดหลักประกัน โดยค้ำประกันเงินกู้หรือสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ ทำให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพากู้เงินนอกระบบ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสถาบันการเงินและลูกค้าของธนาคารให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ควบคู่กับการจัดโครงการสัมมนาให้ความรู้ผู้ประกอบการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ เปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งในธุรกิจเดียวกันและต่างธุรกิจ และช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีขึ้น
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ บสย.สำนักงานจังหวัดสงขลา เปิดดำเนินการมา 8 ปี ได้อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อไปแล้วทั้งสิ้น 1,285 ราย วงเงินอนุมัติ 2,235 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือภาระค้ำประกัน 545 ราย วงเงินภาระค้ำประกัน 976 ล้านบาท
