ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ภาคใต้ตอนล่างแล้ว 3,910 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 23,390.2 ล้านบาท
นายนิรุธ รักษาเสรี ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ กล่าวว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีหนังสือที่ ธปท.ฝกช.(22) ว.64/2551 ลงวันที่ 14 มกราคม 2551 เรื่องการสนับสนุนทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องขยายระยะเวลาให้สถาบันการเงิน ส่งหนังสือขอรับการจัดสรรวงเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้จนกว่าวงเงินที่กำหนดไว้จะถูกจัดสรรหมด แต่ทั้งนี้ไม่เกินสิ้นปี 2553
นอกจากนี้ ได้ขยายความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทออกไปอีก 1 ปี โดยให้ธนาคารพาณิชย์ส่งหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่เชื่อถือได้มายังธนาคารแห่งประเทศไทย ตามวงเงินที่ได้จัดสรรไว้ แต่ไม่เกินวันที่ 22 ธันวาคม 2551
ส่วนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการ ซึ่งเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 ประกอบด้วยผู้ประกอบการพื้นที่จังหวัดสงขลา-สตูล อนุมัติ จำนวน 91 ราย วงเงิน 1,910 ล้านบาท ผู้ประกอบการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุมัติจำนวน 3,819 ราย วงเงิน 21,480.2 ล้านบาท
นายนิรุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยในพื้นที่เป็นสำคัญโดยเฉพาะเรื่องของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญ แต่คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น
นายนิรุธ รักษาเสรี ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ กล่าวว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีหนังสือที่ ธปท.ฝกช.(22) ว.64/2551 ลงวันที่ 14 มกราคม 2551 เรื่องการสนับสนุนทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องขยายระยะเวลาให้สถาบันการเงิน ส่งหนังสือขอรับการจัดสรรวงเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้จนกว่าวงเงินที่กำหนดไว้จะถูกจัดสรรหมด แต่ทั้งนี้ไม่เกินสิ้นปี 2553
นอกจากนี้ ได้ขยายความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทออกไปอีก 1 ปี โดยให้ธนาคารพาณิชย์ส่งหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่เชื่อถือได้มายังธนาคารแห่งประเทศไทย ตามวงเงินที่ได้จัดสรรไว้ แต่ไม่เกินวันที่ 22 ธันวาคม 2551
ส่วนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการ ซึ่งเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 ประกอบด้วยผู้ประกอบการพื้นที่จังหวัดสงขลา-สตูล อนุมัติ จำนวน 91 ราย วงเงิน 1,910 ล้านบาท ผู้ประกอบการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุมัติจำนวน 3,819 ราย วงเงิน 21,480.2 ล้านบาท
นายนิรุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยในพื้นที่เป็นสำคัญโดยเฉพาะเรื่องของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญ แต่คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น