หลายคนตั้งคำถามและอยากจะรู้จักธุรกิจของ “อาจารย์เอ จักรพรรดิ” “นายธนกฤต โรจนตรีภูมิ” ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีออน ไวท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ความงาม ภายใต้แบรนด์ “นีออน” ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ไวท์เทรนนิ่ง และสบู่ มีสินค้ามากกว่า 7 รายการ โดย อาจารย์เอ จักรพรรดิ เริ่มทำธุรกิจนี้เมื่อปี 2559 ตอนนั้นอายุเพียง 29 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วง 1-2 ปี แรก สามารถสร้างยอดขายได้ถึงปีละกว่า 100 ล้าน ติดต่อกัน โดยใช้กลยุทธ์บอกต่อ และการขายผ่านตัวแทนบนโลกโซเชียลฯ
และในช่วงโควิดได้รับผลกระทบยอดขายลดลง ส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันที่สูงมาก จากที่เคยทำยอดขายได้วันละ 1.5 ล้านบาท เหลือเพียงวันละ 6 แสนบาท หันมาใช้กลยุทธ์ การตลาดแบบ Dropship คือให้คนที่สนใจนำสินค้าไปขาย โดยไม่ต้องลงทุนซื้อสต็อกสินค้าเยอะ แต่ใช้เงินเพียง 1,450 บาท ก็ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย พร้อมกับฝึกอบรม และ มีช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยตัวแทนจำหน่ายจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขาย 35% เคยมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 10,000 คน
ทั้งนี้ จากความสำเร็จในช่วง 2 ปีแรก ของผลิตภัณฑ์นีออน ทำให้ได้มีโอกาสไปร่วมทุนกับทางเกาหลี บริษัท ฮวาชินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ในเกาหลี ดำเนินธุรกิจทางด้านซัปพลายเชนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งสนใจในเรื่องของธุรกิจด้านความงาม เครื่องสำอาง และสกินแคร์ ในการจัดตั้งบริษัท นีออน ไวท์ (เกาหลี) จำกัด ขึ้นมาในประเทศเกาหลี โดยทางเกาหลีถือหุ้นในสัดส่วน 51% และทางไทยถือหุ้น 49% เพื่อเป็นฐานผลิตใหม่ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์นีออนในเกาหลี
จุดเริ่มต้นของ นีออน เกิดขึ้นมาจากเมื่อปี 2559 ได้เดินทางกลับบ้านเกิด หลังจากที่ได้เข้ามาทำธุรกิจในกรุงเทพฯ และไม่ประสบความสำเร็จ เพราะโดนโกงจากการเปิดห้องเสื้อ ที่กรุงเทพฯ ตัดเย็บชุดราตรี และชุดความงาม ปรากฏว่า โดนโกงขาดทุนจนหมดตัว ต้องเดินทางกลับบ้านเกิด ตอนนั้นคิดว่าคงจะต้องกลับไปทำนา
ทั้งนี้ ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่รักในความสวย ความงาม เกิดมาตัวดำอยากขาว ก็เลยคิดสูตรทำสบู่ แต่ไม่มีเงินทุน อาศัยขอความช่วยเหลือจากโรงงานให้ช่วยผลิตสินค้าให้ก่อน ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากโรงงานช่วยผลิตสบู่ออกมาให้ขายก่อน โดยได้สบู่มา 3 สูตร นำไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง 3 หมู่บ้าน จำนวน 30 คน สุดท้ายได้สูตรที่ลงตัว สกัดจากมะขามป้อม เพราะช่วยให้ผิวนุ่ม และขาวขึ้น สบู่ล็อตแรกที่ผลิตออกมาจำนวน 300 ก้อน ขายออนไลน์ทั้งหมด
ในช่วงแรก ใช้การทำตลาดแบบบ้าน ไม่มีพรีเซ็นเตอร์ ไม่มีการซื้อโฆษณา แต่ใช้คนใกล้ตัวที่มีปัญหาสภาพผิว มารีวิวด้วยการใช้จริง โดยได้เลือก ชาวนา ชาวสวนยาง คนซ่อมรถ ที่หาได้แถวบ้าน มาช่วยรีวิว และประสบความสำเร็จ พอคนเห็นรีวิว ใช้จริง ยอดขายเพิ่มเป็นวันละ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นจนถึงวันละ 1.5 ล้านบาท เคยทำยอดขายสูงสุดถึง 300 ล้านบาท ก่อนจะมาเจอปัญหา ทำให้เขาต้องล้มละลาย ตามที่เป็นข่าว ก่อนจะมาเป็น อาจารย์เอ จักรพรรดิ ในวันนี้ สินค้าภายใต้แบรนด์ นีออน ก็ยังคงเห็นมีจำหน่ายอยู่ในช่องทางออนไลน์ ในปัจจุบัน นี้
