ด้วยวิกฤตโรคโควิด – 19 ส่งผลให้หลายๆ คน ได้รับผลกระทบกับการดำเนินชีวิต บางคนได้พลิกบทบทเปลี่ยนอาชีพ จนกลายมาเป็นอาชีพการสร้างรายได้หลักแทนอาชีพเดิม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคร้ายในครั้งนี้ เหมือนอย่างเช่นแบรนด์ “เหนียวห่อกล้วยยายศรี” ที่ได้ขาย “ข้าวต้มมัด” หรือในภาษาใต้เรียก “เหนียวห่อกล้วย” ที่เกิดจากการความเหงาของสองยายหลาน ที่ได้ปรึกษากันพลิกผันหันมาขายข้าวต้มมัด จนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามากมาย ขายดีจากเริ่มต้นยอดหลักสิบเป็นยอดหลักพันคู่ในหนึ่งปี
นางสาวเสาวนีย์ คงกำเนิด ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “เหนียวห่อกล้วยยายศรี” ก่อนการระบาดของโรคโควิด -19 ตนทำอาชีพเป็นคุณครูสอนศิลปะ และเปิดสถาบันสอนศิลปะ แต่ด้วยวิกฤตโรคโควิดจึงเป็นเหตุทำให้โรงเรียนสอนศิลปะต้องปิดลง ประจวบเหมาะกับทางคุณยายศรีซึ่งเป็นคุณยายของตนเอง ได้มีการเสพย์ข่าวสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 จึงทำให้เกิดความกังวลและความเครียด จึงได้มีการปรึกษาและมีความคิดเห็นตรงกันว่าจะทำ “เหนียวห่อกล้วย” หรือข้าวต้มมัดสูตรคุณยายขาย เพราะชอบรสมือคุณยายที่ทำให้กินมาตั้งแต่เด็ก และคิดว่าเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้
“แบรนด์เหนียวห่อกล้วยยายศรี จึงเป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นจากความเหงาความกังวล ในช่วงการระบาดของโรคโควิด - 19 ด้วยเห็นว่าสูตรของคุณยายเป็นสูตรโบราณที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และในปัจจุบันข้าวต้มมัดสูตรนี้ก็หากินได้ยากตามท้องตลาด จึงใช้จุดเด่นในเรื่องต้นตำหรับอาหารพื้นถิ่นนี้ เป็นสิ่งดึงดูดลูกค้า และก็ได้รับความสนใจและผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าได้กินขนมในรสชาติคุ้นเคย ทำให้ได้ระลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่ได้กินในสูตรนี้” นางสาวเสาวนีย์ กล่าวเสริม
ในช่วงแรกที่เริ่มต้นการขายนั้น ได้มีการขายในพื้นที่หมู่บ้าน โดยมีการโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์และตระเวนขายให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียง และด้วยสูตรข้าวต้มมัดแบบโบราณที่หากินได้ยากตามท้องตลาด จึงให้ลูกค้าเริ่มรู้จักมากขึ้น พร้อมกับมีความคิดเห็นว่าเป็นรสชาติดั่งเดิมที่คุ้นเคย จึงทำให้ลูกค้าต่างชื่นชอบในรสมือคุณยายศรี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้กินรสชาติแบบนี้มานานแล้ว จึงทำให้ลูกค้าได้มีการแนะนำบอกต่อๆ กัน และทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น มียอดสั่งทำเข้ามาไม่ขาด
หลังจากเริ่มเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่แล้ว ก็มีกลุ่มลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดได้ให้ความสนใจ ในการซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือซื้อเพื่อไว้กินเองในช่วงที่อยากกินข้าวต้มมัดสูตรโบราณ จึงได้มีการคิดวิธีการบรรจุให้ข้าวต้มมัดอยู่นานขึ้นโดยไม่ต้องใส่สารกันบูด ด้วยการทดลองนำมาแพคแบบสูญญากาศ ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถช่วยได้ ทำให้ข้าวต้มมัดไม่เสียในเวลา 5 วัน และโดยปกติแล้วทางเหนียวห่อกล้วยยายศรี จะทำการส่งให้ลูกค้าให้เร็วที่สุดในเวลา 1 วัน ลูกค้าก็จะได้รับสินค้าแล้ว และหากนำไปแช่เย็นก็จะอยู่นานขึ้น 20 วัน หากจะกินก็แค่ทำการอุ่นร้อนเพียงเท่านั้น และในปัจจุบันก็ได้มีการจัดส่งให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ในราคาแพคละ 150 บาท หนึ่งแพคมี 10 มัด 20 ชิ้น ค่าจัดส่ง 60 บาท แพคต่อไปราคา 10 บาท
สำหรับสูตรโบราณของเหนียวห่อกล้วยยายศรี เป็นสูตรที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีจุดเด่นคือการใช้ "ข้าวเหนียวดิบ" ในการทำข้าวต้มมัด ไม่ได้ใช้ข้าวเหนียวมูลตามสูตรปกติ และใช้เวลานึ่งถึง 3 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้ข้าวต้มมัดในรสชาติและรสสัมผัสตามแบบดั่งเดิม และในการนึ่งที่ใช้เวลาที่นานนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีถนอมอาหารสูตรโบราณ จึงทำให้ข้าวต้มมัดเก็บไว้ได้นานขึ้นในขณะจัดส่ง และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นยังมีการใส่ “งาดำคั่ว” ที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้ข้าวต้มมัดมีรสชาติและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับได้ประโยชน์เพิ่มจากงาดำไปในตัวอีกด้วย และคุณยายก็ยังได้มีการเขียนจดหมายถึงลูกค้าทุกๆ คน เพื่อสื่อสารและพูดคุยกัน ทำให้แบรนด์เหนียวห่อกล้วยยายศรีเป็นที่รักของลุกค้าที่ได้มาลองลิ้มชิมรส
ปัจจุบันเหนียวห่อกล้วยยายศรี ได้เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ทำให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากเมื่อก่อนมีจำนวน 50 คู่ต่อสัปดาห์ จนปัจจุบันยอดขายสามพันคู่ต่อสัปดาห์ ทางแบรนด์จึงได้มีการติดต่อผู้สูงอายุภายในชุมชน ที่เป็นเพื่อนๆ คุณยายศรีมาร่วมช่วยกันทำข้าวต้มมัดขาย ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นการกระจายรายได้และสร้างอาชีพให้กับผู้สูงอายุในชุมชน แม้วิกฤตการระบาดของโรคโควิด – 19 จะยังไม่มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น แต่ในความเงียบเหงาและความกังวลนี้ ก็ทำให้ได้เกิดแบรนด์ขนมสูตรโบราณ และได้กลายมาเป็นที่รู้จักของผู้ที่ชื่นชอบและคิดถึงรสมือดั่งเดิมของคนรุ่นก่อนๆ เป็นการได้ย้อนกลับไปนึกถึงวันเวลาที่ดีในช่วงเก่าๆ ในยามที่โรคระบาดยังคงอยู่และไม่มีท่าทีว่าคลี่คลายลงในวันใด
สนใจติดต่อ
โทร.089 – 593 3479
FB : เหนียวห่อกล้วยยายศรี