นครปฐม - พบศพผูกคอตายคู่ในห้องเช่า มือยายยังเกาะบ่าสามี โดยเจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตาย บ่นท้อแท้ทรมานกับชีวิต พร้อมทิ้งเลขตัวเลขไว้ให้ลูกหลาน ขณะญาติให้ข้อมูลทั้งคู่ขยันมาก แต่น่าจะสู้พิษเศรษฐกิจไม่ไหว เพิ่งถูกยึดรถและไปกู้เงินนอกระบบมาไม่นาน คาดไม่เหลือเงินต่อลมหายใจ
เวลา 20.40 น.วานนี้ (4 พ.ค.) พ.ต.อ.ไสว แช่มลำเจียก ผกก.สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม รับแจ้งว่ามีผู้ผูกคอตาย 2 ศพภายในห้องเช่า หลังศาลเข้าแปะกง หมู่ที่ 1 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม จึงไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวซึ่งมีหลายห้องติดกัน โดยช่วงห้องที่อยู่กลางอาคาร เจ้าหน้าที่พบว่าห้องเปิดไฟไว้ แต่เมื่อส่องมองผ่านกระจกเข้าไปต้องพบภาพสลด เมื่อพบร่างของชายหญิงสูงวัยได้ผูกคอเสียชีวิตอยู่ที่ห้องน้ำท้ายห้อง ซึ่งต้องมีการเตรียมตัวในการสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป เพื่อตรวจสอบ โดยพบว่า เป็นผู้ที่เช่าห้องดังกล่าวได้ผูกคอตายโดยใช้เชือกผูกกับชื่อหน้าห้องน้ำและห้อยตัวลงมาคู่กัน โดยที่มือฝ่าหญิงยังกอดพาดไปที่บ่าของฝ่ายชาย เป็นภาพที่ทำให้ชาวบ้านต่างหดหู่ใจ
จากการตรวจสอบทราบชื่อฝ่ายชายคือ นายธนนรักษ์ พิทยสีห์นาค อายุ 62 ปี และนางสรินทร์ดา ทิพยสีห์นาค อายุ 64 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 11/99 ม.10 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทั้งคู่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่มาเช่าห้องแถวดังกล่าวอาศัย โดยจากการตรวจสอบภายในห้อง พบว่า มีการเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ระบุข้อความว่า “4 พ.ค.64 วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่บนโลกใบนี้ อยู่ต่อไปก็ทรมานเหลือเกิน เราขออโหสิกรรมทุกๆ คนด้วย ลาก่อน จาก
ต้อยผู้อาภัพ”
และยังพบกระดาษที่มีการเขียนไว้อีก 1 แผ่น มีข้อความ “ผมขอลาก่อนขอให้ทุกคนโชคดี ธนนรักษ์ ทิพย์สีห์นาค” ซึ่งมีการเขียนเลขต่างๆ เอาไว้ คาดว่าเป็นเลขสำหรับคนที่ชอบเสี่ยงโชค โดยมีการเขียนทั้งล่างและบนเอาไว้หลายตัวเลข เช่น บ ให้ญาติ 14 15 24 25 มีการสลับเลข และ ล ที่มีเลขอีก 4 ชุด ประกอบด้วยเลข 37 และ 38 เอาไว้ โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรต่อไป
โดยในที่เกิดเหตุ มีบุตรชายบวชอยู่ที่วัดธรรมศาลา ใกล้กับบ้านเช่าได้เข้ามาดูศพบิดามารดา โดยอยู่ในความตกใจ สอบถามไปยังญาติทราบว่า ทั้งคู่นั้นเป็นสามีภรรยาที่มีญาติอยู่ในจังหวัดนครปฐม โดยได้อาศัยการค้าขายทั่วไปเพื่อประทังชีวิต ซึ่งมีความขยันขันแข็งและต่อสู้ชีวิตทั้งคู่ แต่เมื่อเกิดสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งระลอกแรกทำให้รายได้ลดลง แต่ยังคงต่อสู้ไปหยิบยืมเงินญาติมาต่อทุนเพื่อสู้ในวิกฤตการระบาดระลอก 2 กระทั่งสภาวะการเงินเริ่มแย่หนักในการระบาดระลอกที่ 3 โดยได้ไปกู้เงินนอกระบบมาค้าขาย สลับกับไปยืมญาติพีน้องมาทำทุนต่อ แต่ระลอกนี้ไม่ไหวเพราะรถเพิ่งถูกยึดไปไม่กี่วัน และถูกกดดันจากการกู้เงินนอกระบบ คาดว่าทั้งคู่เห็นว่าหมดทางต่อสู้ชีวิตจึงเขียนจดหมายลาและตัดสินใจผูกคอตายในวันนี้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการประสานขอสอบถามข้อมูลจากญาติว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ พบว่า เป็นคนอัธยาศัยดีไม่มีปัญหากับใคร ซึ่งโรคประจำตัวไม่มี และไม่นานมานี้เพิ่งไปยืมเงินญาติ พ่วงด้วยการกู้เงินมา คาดว่าน่าจะไม่สามารถหารายได้แล้ว จึงได้ตัดสินใจด้วยความเครียด แต่สาเหตุที่แน่ชัดจะมีการสอบถามญาติ รวมถึงรอผลการผ่าชันสูตรพลิกศพอีกครั้งเพื่อความชัดเจนต่อไป