พม.เร่งช่วยเหลือครอบครัว “ลุงนเรศ สุขศิริ” หลังฆ่าตัวตายเพราะทนความยากจน-โรครุมเร้า ไม่หว ตามนโยบาย “ รมว.จุติ “ ในโครงการ “ไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ดูแลกลุ่มเปราะบาง และคนพิการทุกคน ทุกครอบครัว
วันนี้(27เม.ย.) เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นายศราวุธ มูลโพธิ์ ผู้ตรวจราชการ และนายอุเทน ชนะกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวนายนเรศ สุขศิริ อายุ 56 ปี ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ชุมชนริมคลองสามัคคี เขตคลองเตย พร้อมกับดำเนินการช่วยเหลือ โดยมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมกรณีฉุกเฉิน เป็นเงิน 10,000 บาท พร้อมถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้การช่วยเหลือตามระเบียบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง จำนวน 3,000 บาท และจัดทำสมุดพกครอบครัว เพื่อวางแผนให้การพัฒนาครอบครัว ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
นอกจากนี้นายปานชัย แก้วอัมพรดี ประธานอพม.กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนการช่วยแก้ไขปัญหาการจัดการหนี้ให้กับครอบครัวขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ เอี่ยมพญา ผู้แทนศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค1 ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว 3,000 บาท และช่วยซ่อมแซมบ้านบางส่วน เพื่อให้สามารถอาศัยอยู่ได้
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ในการเข้าไปดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการทุกคน ทุกครอบครัวจะได้รับการช่วนเหลือ ดูแลอย่างดีที่สุด "ไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง"
สำหรับนายศราวุธได้อาศัยอยู่กับภรรยาชื่อนางพุธ เมืองสุวรรณ์ อายุ 55 ปี ไม่มีบุตรด้วยกัน ซึ่งนางพุธมีอาชีพเป็นแม่บ้าน สหกรณ์เคหสถานชุมชนคลองเตย รายได้ 8,340 บาทต่อเดือนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวทั้งหมด รวมถึงหนี้สินทั้งในและนอกระบบรวม 31,00 บาท แต่เนื่องจากนายนเรศไม่ได้ประกอบอาชีพมา 2 ปี เพราะป่วยด้วยโรคม้ามโต โลหิตจาง ต้องถ่ายเลือดทุก 2 อาทิตย์ ครอบครัวอยู่ในภาวะยากลำบาก โดยสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาด้านสุขภาพ และหนี้สินของครอบครัว จึงเกิดความเครียด จนทำการผูกคอตายกับขื่อบ้าน โดยสวมผ้าพันคอและหมวกจิตอาสาพระราชทาน พร้อมเขียนจดหมายลาตายเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา
