#ย้ายประเทศกันเถอะ
นอกจากจะกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แล้ว นี่ยังกระแสที่แรงอย่างมากในโลกโซเชียล สำหรับแคมเปญ “ย้ายประเทศกันเถอะ” (ก่อนที่เพจย้ายประเทศกันเถอะจะเปลี่ยนชื่อเป็น “โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย” ไปท่ามกลางความงุนงงของใครหลาย ๆ คน)
แรงถึงขนาดกลุ่มการเมืองฝั่งตรงข้ามเชียร์ ส่งใจ และขออวยชัยให้รีบย้ายไปไว ๆ ย้ายไปเยอะ ๆ ย้ายไปได้หมดทั้งกลุ่มยิ่งดี พร้อมกับอวยพรให้ไปสู่ที่ชอบ ๆ ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมา
แรงถึงขนาดเพจ “สถานทูตสวีเดนประจำประเทศไทย” ได้โพสต์เชิญชวนให้ผู้สนใจย้ายไปอยู่ในดินแดนที่ได้รับฉายาว่าฟรีเซ็กซ์แห่งนี้
อย่างไรก็ดีสำหรับการย้ายประเทศ ย้ายจากเมืองไทยไปเป็นพลเมืองของประเทศอื่น ถือเป็นสิทธิ์เสรีภาพที่แต่ละคนสามารถทำได้ ถ้ามีความสามารถ มีความมุ่งมั่น ก็สามารถออกเดินตามความฝันออกจากเมืองไทยไปอยู่ประเทศอื่นตามที่ใจปรารถนา (ถ้าประเทศที่อยากย้ายไปนั้นยินดีต้อนรับ)
สำหรับในวงการเพลงบ้านเรานั้น ยุคเพลงเพื่อชีวิตบูม ๆ ได้มีศิลปินแต่เพลงสะท้อนเรื่องราวความจริงของคนที่ย้ายประเทศ (ชั่วคราว) เพื่อไปทำงานยังต่างแดน ซึ่งล้วนต่างมีเนื้อหาน่าฟัง และสะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก ข้อเท็จจริง ของผู้ที่ไปอยู่ต่างแดนออกมาได้อย่างเห็นภาพ ซึ่งเราขอคัดสรร 5 บทเพลงเพื่อชีวิต เกี่ยวกับการจากเมืองไทยไปอยู่ต่างแดนมาฝากกันดังนี้
หรอย-คาราบาว
บทเพลงพูดถึงหนุ่มใต้ที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัย ได้รับปริญญามาหมาด ๆ แต่รู้สึกผิดหวังกับสังคม ระบบการศึกษาในบ้านเรา (เหมือนหลาย ๆ คนในยุคนี้) จึงจำใจบากหน้าบินไปหางานทำในต่างแดน (ไม่ใช่เต็มใจที่อยากจะไปแบบน้อง ๆ หลาย ๆ คนในยุคนี้) แถบประเทศตะวันออกกลาง (ถือเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้นอยู่ไม่น้อย)
เพลงนี้คาราบาว เล่นร้องแบบ อะคูสติก ๆ คอร์ดง่าย ๆ ย้ำวนกับริฟฟ์ 3-4 ตัวโน้ต ส่วนน้าแอ๊ดสมัยนั้นยังเสียงดี ร้องได้ถึงอารมณ์ สะทกสะท้อนความรู้สึกของหนุ่มใต้ผู้จำใจบินไกลไปหางานในต่างแดนได้เป็นอย่างดี
ซาอุดร-คาราบาว
บทเพลงสะท้อนความเป็นจริงแห่งยุคสมัยที่ครั้งหนึ่ง คนต่างจังหวัด ชาวไร่ ชาวนา นิยมไปทำงานในต่างแดน ในประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ซึ่งน้าแอ๊ดได้หยิบยกความจริงอันขำขื่น มาร้องควบคู่ไปกับดนตรีร็อกสนุก ๆ
โดยหนุ่มพระเอกในเพลงนั้นวาดหวังว่าเมื่อไปถึงซาอุ พ่อจะยอมอดเหล้าทำงานเก็บเงินสะสมหอบกลับมาฝากลูกเมีย พร้อมกับกลายเป็นเศรษฐี มีบ้านหลังใหญ่ รถยนต์ นั่งกินนอนกิน
แต่แล้วเครื่องบินได้บินพาพ่อหนุ่มคนนี้ไปลงที่เมืองซาอุ แต่ไม่ใช่ซาอุดิ หากแต่เป็น “ซาอุดร” (อุดรธานี) เป็นอันว่าสวรรค์ล่ม จบข่าว!
สิงคโปร์-แอ๊ด คาราบาว
สิงคโปร์เป้นประเทศที่มีคนไทยไปทำงานที่นั่นกันไม่น้อย และไปทำกันมานานแล้ว โดยในยุคเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว มีคนไทยไปเป็นแรงงานที่เมืองลอดช่อง แล้วปรากฏเป็นข่าวโด่งดังว่ามีอาการ “ไหลตาย” อยู่หลายคนโดยไม่ทราบสาเหตุ
น้าแอ๊ด จึงหยิบเรื่องราวของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในยุคนั้น (ที่ออกอัลบั้มทำมือ) มาแต่งเป็นเพลง “สิงคโปร์” ในจังหวะดนตรีสนุก ๆ แต่เนื้อหาจิกกัดเจ็บแสบ เรื่องราวชีวิตของนาย “ทองเรียม” ชายไทยผู้ยากจนที่ต้องจำใจบินข้ามฟ้าไปทำมาหากินที่สิงคโปร์ ซึ่งที่นั่นแม้เงินจะดี แต่ชีวิตนั้นกับแสนลำบาก ถูกเอาเปรียบทารุณ ที่ฟังแล้วน่าหดหู่ไม่น้อย แถมยังมีเสียงสะบัดแส้ ควับ ๆ ประกอบในเพลงตอกย้ำให้เพลงนี้ฟังน่ารันทดขึ้นไปอีก
จดหมายถึงพ่อ-อี๊ด ฟุตบาธ
บทเพลงดังประจำตัวของ “อี๊ด ฟุตบาธ” สะทกสะท้อนเรื่องราวของคุณพ่อที่ต้องจำใจจากครอบครัว ภรรยา และลูกน้อยไปทำงานยังดินแดนไกล (ในเพลงไม่ได้บอกว่าไปไหน แต่สามารถอนุมานว่าคุณพ่อไปทำงานที่ต่างประเทศ เพราะไปไกล ไปนาน และเมื่อกลับมาจะมีเงิน มีบ้านหลังโตรถโก้สง่า)
เพลงจดหมายถึงพ่อ ต้นตำรับเป็นแนวอะคูสติก ปิ๊กกิ้งกีตาร์ใส ๆ มีลูกเล่นในคอร์ด กับตัวโน้ตที่จำติดหู และแถมท้ายด้วยเสียงของน้องปิ๊ก น้องเปรียว เมื่อครั้งยังเด็กมาช่วยเติมสีสันให้เพลงฟังมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น แต่ก็แฝงความเศร้าอยู่ในทีด้วยอารมณ์ความรู้สึกของครอบครัวที่พ่อต้องจำใจจากบ้านไปทำงานแดนไกล
โยโกฮาม่า-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์
ญี่ปุ่นเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่พลเมืองกลุ่มอยากย้ายประเทศอยากไปกันมาก เพราะนี่คือดินแดนในฝัน ที่ยามเมื่อไปเที่ยวดินแดนปลาดิบนั้นมันช่างฟินไปเสียทุกอย่างจนอยากอยู่ที่นี่นาน ๆ หรืออยู่ยาวตลอดไป
“โยโกฮาม่า” เป็นบทเพลงสายดาร์ก ที่พี่ปูขับร้องถ่ายทอดออกมาได้อย่างสุดรันทด เล่าเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่จำใจ (ย้ำว่าจำใจ ไม่ใช่เต็มใจ) ต้องจากบ้านเกิดเมืองไทย จากพ่อจากแม่ มาขายนาผืนน้อยที่ประเทศแดนซามูไร เพื่อส่งเงินกลับไปให้พ่อแม่ชาวนา ได้ใช้กินอยู่กลายเป็นเศรษฐีชุบชีวีหลายคนที่บ้าน จากการขายนาผืนน้อยของเธอ
แต่ด้วยสภาพความเป็นอยู่ สภาพความเป็นจริง ทำให้สภาพจิตใจของเธอเสื่อมถอย จนติดเหล้า การพนัน โดนแมงดาหลอกหมดเนื้อหมดตัว จนสุดท้ายเธอเลือกผูกคอตาย จบชีวิตตัวเองอันแสนบัดซบลงที่เมือง “โยโกฮาม่า”
และนี่ก็คือ 5 บทเพลงเพื่อชีวิตน่าฟัง ที่สะทกสะท้อนเรื่อิงราวของคนไทยที่จำใจต้องย้ายประเทศชั่วคราวไปทำมาหากินที่ต่างแดน ที่แต่ละคนก็เผชิญปัญหา ชะตากรรม และบทจบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนี่นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากย้ายประเทศไปทำงานต่างแดน ที่ใครใคร่อยากไปก็ไป แต่ไปแล้วจะให้รัฐบาลของประเทศนั้นเลี้ยง มีสวัสดิการดี ๆ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเรียนหนังสือ ไม่ต้องเสียภาษีคงเป็นไปไม่ได้
เพราะในโลกของความเป็นจริง คงไม่มีประเทศไหนยินดีที่จะรับคนจากต่างบ้านต่างเมืองให้เข้ามาเป็น “ปัญหา-ภาระ” ของประเทศตัวเองอย่างแน่นอน