สุรินทร์ - สุดสลด! สองสามีภรรยาชาวเมืองช้างเจอปัญหารุมเร้า จุดถ่านรมควันดับคารถเก๋ง 2 ศพภายในบริเวณบ้านพัก พร้อมทิ้งจดหมายลาตายถึงพ่อแม่พี่น้องขออโหสิกรรมให้ด้วย
วันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 1669 สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋ง ที่บ้านเลขที่ 238 ม. 4 บ.ปรือเกียน ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งได้ประสานอาสากู้ภัยสุรินทร์ พร้อมด้วย ร.ต.ท.เอกรัฐ ใจผล ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สุรินทร์ พญ.สุภินี นาตยากูล แพทย์เวร นิติเวช โรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมด้วยรถกู้ภัยสุรินทร์, รถพยาบาลกู้ภัย, อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ และกู้ชีพ อบต.นอกเมือง เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เลขที่ 238 ม.4 บ.ปรือเกียน ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา เลขทะเบียน 2 กถ 2090 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในบริเวณบ้าน ภายในรถเก๋งพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ จ.อ.กฤษณะ มีด้วยดี อายุ 41 ปี เป็นเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิท อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 47/24 ม.3 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เสียชีวิตอยู่ด้านคนขับ
ส่วนเบาะนั่งด้านข้างคนขับ พบผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ทราบชื่อคือ น.ส.อินทิรา มีด้วยดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 238 ม.4 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ภายในรถยนต์เก๋งยังพบถ่านจุดใส่หม้อไว้ในรถยนต์ในลักษณะต้องการรมควันให้ทั้งสองเสียชีวิตภายในรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว
นอกจากนี้ ภายในรถเก๋งยังพบมีจดหมายลาตายที่ จ.อ.กฤษณะ มีด้วยดี ได้เขียนถึงพ่อ แม่ ลูก และเพื่อน โดยมีข้อความว่า ขอโทษทุกคน รักพ่อ รักแม่ พี่ น้อง น้องปอย เพื่อนร่วมงานที่น่ารักทุกคน ผมขอตัดสินใจเอง หากทำให้ใครต้องเดือดร้อนก็ขอให้อโหสิกรรมให้ผมด้วย หนี้สินถ้าใช้หมด เหลือเก็บไว้ให้ปอย และกราบขอโทษพ่อ แม่ พี่ น้อง ที่ทำให้เสียใจ ลงท้ายชื่อ เปี๊ยก
จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากญาติที่อยู่กรุงเทพฯ แจ้งว่า ให้ช่วยเข้ามาดูที่บ้านนี้หน่อยว่ามีผู้ป่วยจิตเวช กลัวมีการทำร้ายกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ไม่มีอะไรปกติดีจึงเดินทางกลับ จนกระทั่งเวลา 22.31 น. ได้รับแจ้งอีกทีว่าพบผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์เก๋งดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรได้ทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับจะสอบสวนหาสาเหตุและแรงจูงใจที่ทั้งสองคนได้ตัดสินใจรมควันฆ่าตัวตายในครั้งนี้