อุบลราชธานี - เรือนจำกลางอุบลราชธานีให้ญาติเขียนจดหมายเยี่ยมผู้ต้องขังผ่านโปรแกรมไลน์ เผยไม่นำตัวผู้ต้องขังไปศาลกรณีไม่จำเป็น ขณะที่แดนแรกรับให้กักตัว 21 วันจึงส่งไปตามแดนต้องโทษ ส่วนผู้คุมเรือนจำวางกฎเข้มห้ามไปพื้นที่เสี่ยง ทั้งให้ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว
วันนี้ (17 พ.ค.) บรรยากาศที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังชายและหญิงอยู่ภายในเรือนจำรวมกันกว่า 6,100 คน ยังไม่พบมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เรือนจำมีมาตรการเข้มงวด โดยงดเยี่ยมผู้ต้องขังตั้งแต่เกิดการระบาดตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนเป็นต้นมา แต่อนุญาตให้ญาติยังฝากเงินซื้อของใช้ให้แก่ผู้ต้องขังได้ ส่วนการเยี่ยมใช้วิธีเขียนจดหมายผ่านทางโปรแกรมไลน์ที่เรือนจำจัดทำได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ส่วนการคัดกรองก่อนเข้าเรือนจำอุบลราชธานี ได้แบ่งห้องในแดนแรกรับเป็น 2 กลุ่ม โดยผู้ต้องขังที่มาจากพื้นที่เสี่ยงถูกคัดแยกไว้ต่างหากจากกลุ่มผู้ต้องขังที่มาจากพื้นที่ปกติ และผู้ต้องขังทั้ง 2 กลุ่มต้องกักตัวเป็นเวลา 21 วัน ระหว่างกักตัวต้องทำสวอบคนละ 2 ครั้ง เมื่อครบกำหนดกักตัว ต้องเอกซเรย์ปอดซ้ำ หากไม่พบการติดเชื้อใดๆ จึงจะส่งไปแยกขังตามแดนต่างๆ
ระหว่างถูกคุมขัง นักโทษต้องสวมหน้ากากทั้งเวลาปล่อยออกมาทำกิจวัตรช่วงกลางวัน และตอนนอน พร้อมห้ามนักโทษข้ามแดนไปมา ต้องอยู่แต่ในแดนของตัวเอง ส่วนน้ำที่ใช้อาบ ได้ผสมคลอรีนฆ่าเชื้อ ผู้คุมที่ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละแดนก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย
สำหรับนักโทษที่ต้องไปตามนัดของศาล กรณีผัดฟ้อง ฝากขังต่อ หรือไม่มีการไต่สวนที่สำคัญ จำเป็นที่นักโทษต้องไปปรากฏตัวที่ศาลด้วยตนเอง ศาลอนุญาตใช้วิธีไต่สวนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่องดการนำตัวผู้ต้องขังออกไปภายนอกเรือนจำได้
นอกจากนี้ เรือนจำอุบลราชธานียังได้ขอร้องให้ผู้คุมเรือนจำหลีกเลี่ยงไม่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงที่พบการระบาดของโรค รวมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้รับการจัดสรรรอบแรกแล้ว
