xs
xsm
sm
md
lg

“กรมคุก” ยัน “รุ้ง” กักตัวแดนแรกรับตามนโยบาย ส่วนนักโทษติดโควิดยอดสูงเกือบ 3 พันราย เป็นตัวเลขรวมหลังได้ผลตรวจชัดเจน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รองอธิบดีราชทัณฑ์ แจงยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 สูง เพราะต้องรอผลตรวจให้ชัดเจนจึงรวบรวมตัวเลขส่ง ศบค. ย้ำเปิดเผยรายชื่อผู้ป่วยไม่ได้ ญาติต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยัน “รุ้ง-ปนัสยา” อยู่ในที่กักตัวก่อนออกจา่กเรือนจำ แต่ผ่อนคลายให้ออกมาแดนแรกรับตามนโยบายใหม่ และผู้ต้องขังแดนแรกรับไม่มีใครติดโควิด

วันนี้ (14 พ.ค.) ณ อาคารกรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่า สาเหตุที่มียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากในระยะเวลารวดเร็ว สืบเนื่องจากวันที่ 7 พ.ค. กรมราชทัณฑ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ให้มาประจำอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อดำเนินการตรวจวิเคราะห์หาเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงวันที่ 12 พ.ค. ในผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง จนสามารถตรวจแล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สามารถแยกกลุ่มเป้าหมายที่ติดเชื้อและกลุ่มที่ยังไม่ติดเชื้อแยกจากกันได้อย่างทันท่วงทร ทำให้พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก

นายวีระกิตติ์ กล่าวต่อว่า ในกลุ่มผู้ติดเชื้อดังกล่าว ได้ดำเนินการ X-ray ปอดทุกราย โดยรถพระราชทานในโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนปอดอักเสบได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีการแยกผู้ป่วยตามลักษณะอาการเพื่อดำเนินการรักษาได้อย่างตรงจุด และด้วยการตรวจพบเชื้อที่มากขึ้นในระยะเวลาที่รวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีการยืนยันผลเพื่อป้องกันการรายงานผลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพื่อให้ได้ยอดการรายงานที่เป็นยอดแท้จริงจากการตรวจคัดกรองแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 4-5 วันในคราวเดียวกัน จนกระทั่งได้จำนวนผู้ติดเชื้อที่เป็นยอดแท้จริงก่อนรายงานไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ดังกล่าว

นายวีระกิตติ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และที่ผ่านมา หากผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรายใดต้องการแจ้งให้ญาติภายนอกทราบ ทางเรือนจำและทัณฑสถานจะมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการแจ้งไปยังญาติผู้ต้องขังแต่ละรายเป็นการเฉพาะอยู่แล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ต้องขังว่าต้องการแจ้งญาติหรือไม่ เนื่องจากไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายชื่อผู้ป่วย รวมถึงข้อมูลอื่นใดแก่บุคคลภายนอกได้ ยกเว้นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะอาจเป็นการกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคลของผู้ต้องขัง อย่างไรก็ตาม หากญาติผู้ต้องขังรายใดที่มีความกังวลใจ สามารถติดต่อสอบถามที่เรือนจำและทัณฑสถานที่ผู้ต้องขังถูกคุมขังอยู่ได้

นายวีระกิตติ์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงเพิ่มเติมกรณีที่มีผู้โพสต์ในสื่อออนไลน์ โดยอ้างว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ไม่ได้ถูกกักตัวตลอดเวลาระหว่างวันที่ 23 เม.ย.- 5 พ.ค.ก่อนถูกปล่อยตัวจากเรือนจำนั้น ขอเรียนว่า น.ส.ปนัสยา ได้ถูกกักตัวในห้องกักโรคจนถึงวันที่ 25 เม.ย.ตามนโยบายเดิมของกรมราชทัณฑ์ที่ให้กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน แต่ในช่วงดังกล่าว ได้มีนโยบายใหม่ให้กักตัวผู้ต้องขังแรกรับและผู้ต้องขังออกศาลเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 21 วัน ซึ่งอาจทำให้ผู้ต้องขังเกิดความเครียดจากการกักตัวที่ใช้ระยะเวลานานได้ จึงมีการผ่อนคลายโดยให้ผู้ต้องขังที่ออกจากห้องกักโรคได้ออกมาผ่อนคลายภายในแดนแรกรับ ซึ่งเป็นแดนที่เตรียมไว้สำหรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ เพื่อสังเกตโรค ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องประมาณ 1-3 เดือน เพื่อให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายได้ปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในทัณฑสถาน โดยอาจมีกิจกรรมเล็กน้อย เช่น การอ่านหนังสือ

“ทั้งนี้ ในแดนแรกรับดังกล่าว จะมีพื้นที่ครอบคลุมในส่วนของห้องกักโรค ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของแดนแรกรับเช่นเดียวกัน โดยมีผู้ต้องขังทั้งแดนอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังในแดนแรกรับทั้งหมดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ปรากฏว่ามีผู้ต้องขังรายใดที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงผู้ต้องขังที่พักร่วมห้องกับ น.ส.ปนัสยา เอง ก็ไม่พบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด” นายวีระกิตติ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น