กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ พบเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ส่งออกอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป ร่วมกำหนด 10 มาตรการเชิงรุก จับมือเอกชนบุกตลาดโลก โปรโมตอาหารไทยนำรายได้เข้าประเทศช่วยเกษตรกรสู้โควิด-19
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ประชุมร่วมกับเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ส่งออกอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมหารือและร่วมกันกำหนด 10 มาตรการเพื่อโปรโมตอาหารไทยสู่ตลาดโลก รายได้เข้าประเทศช่วยเกษตรกรสู้โควิด-19
โดยมาตรการทั้ง 10 ได้แก่
1. กระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนจะเร่งทำประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารของประเทศไทยจัดทำคลิป 10 ภาษาสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์สู่สายตาชาวโลก
2. ให้ทูตพาณิชย์จัดประชุมออนไลน์ร่วมกับภาคเอกชนในภาคส่วนต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน
3. วางแผนงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์เปิดตลาดใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูปโดยเฉพาะ เพื่อช่วยเอสเอ็มอีมีโอกาสโดยเฉพาะตลาดอาเซียน กลุ่มประเทศเอเชีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศรัสเซียและประเทศที่แยกตัวออกจากรัสเซีย
4. กระทรวงพาณิชย์กับเอกชนจะร่วมมือกันเร่งเจรจาจัดทำเอฟทีเอกับสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรของประเทศอังกฤษโดยเร็ว
5. กระทรวงพาณิชย์จะเร่งดึงสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกร รวมทั้งผู้ผลิตแปรรูปเข้ามาอยู่แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางขยายส่งออกสินค้าไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
6. เร่งแก้ไขปัญหาด้านขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปไม่ว่าจะทางอากาศ ทางเรือ ทางบกได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะสินค้าทางบกผ่านเวียดนามและลาวไปจีนยังติดขัดและด้านต่างๆ
7. เร่งใช้กลไกเกษตรสัญญาเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
8. กระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนจะช่วยกันส่งเสริมการบริโภคน้ำผลไม้ 100% ของไทย แต่ยังติดปัญหาเรื่องของภาษีสรรพสามิตที่ยังเก็บแบบภาษีความหวาน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และเอกชนไม่ได้ขัดข้องประเด็นนี้ แต่เห็นว่ากรมสรรพสามิตควรจะปรับปรุงทบทวนเรื่องของความหวานที่เกิดจากผลไม้ธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมการดื่มน้ำผลไม้ของไทยมากขึ้น โดยไม่ไปเก็บหรือเพิ่มภาษีความหวานในส่วนของน้ำผลไม้ธรรมชาติ
9. กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับภาคเอกชนใช้ห้องเย็นที่มีอยู่กว่า 600 แห่งในประเทศไทยให้เป็นประโยชน์ในการชะลอพืชผลทางการเกษตรสำคัญที่จะออกสู่ตลาด และมีผลกระทบทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำให้มากขึ้น และ
10. เร่งเจรจากับประเทศออสเตรเลียตั้งกำแพงภาษีการส่งออกสับปะรดกระป๋องที่ส่งออกไปลำดับหนึ่งของโลกมีอัตราภาษีสูงมาก ซึ่งทั้ง 10 แนวทางดังกล่าวจะเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นต่อไป
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager