xs
xsm
sm
md
lg

กระทรวงเกษตรฯ เร่งเครื่องเจาะช่องทางตลาดสินค้าเกษตรไทย-จีน หลังจีนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติจากโรคโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งเครื่องสั่งทูตเกษตรประจำประเทศจีนเจรจาขยายสินค้าเกษตรกับคู่ค้า เจาะช่องทางตลาดสินค้าเกษตรไทยเพิ่ม หลังตลาดการค้าสินค้าเกษตรจีนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นายอลงกรณ์ พลบุตร เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นรองประธาน ได้ประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามผลกระทบการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยได้มอบหมายให้ส่วนราชการประสานงานร่วมกันเพื่อเร่งรับมือต่อสถานการณ์โควิด-19 อย่างเร่งด่วน

ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่ง พบว่าประเทศจีนเริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น และทางการจีนได้ยกเลิกมาตรการปิดเมืองหลังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ส่งผลให้ร้านค้าต่างๆ เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง แต่มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว รวมทั้งมีมาตรการคัดกรองอย่างละเอียด แสดงให้เห็นว่าตลาดการค้าสินค้าเกษตรจีนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ถึงประมาณ 70-80% สามารถขยายการขนส่งภายใต้ข้อจำกัดและอุปสรรคได้

ในช่วง 1 มี.ค.-14 เม.ย. 2563 มีการส่งออกผลไม้หลักที่สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมังคุด ผ่านช่องทางต่างๆ ของด่านตรวจพืช ทั้งทางบก เรือ และอากาศ ซึ่งมีปริมาณส่งออกรวม 156,076 ตัน มูลค่า 13,947 ล้านบาท โดยในเดือนมีนาคม 2563 มีปริมาณส่งออกผลไม้หลักที่สำคัญจำนวน 75,908 ตัน และในช่วงวันที่ 1-14 เมษายน 2563 มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นจำนวน 80,168 ตัน ในระยะเวลาเพียงครึ่งเดือนมีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม การขนส่งทางบกจากไทยไปจีนซึ่งมีปริมาณ 83,808 ตันต้องผ่านเส้นทางประเทศลาว และเวียดนาม เป็นเส้นทางสายหลักไปสู่ประเทศจีน ยังพบว่ามีปัญหาติดขัดที่ด่านตรวจของประเทศดังกล่าว ซึ่งเพิ่มมาตรการเข้มงวดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้เน้นการขนส่งทางเรือเพิ่มมากขึ้น โดยการเพิ่มเที่ยวเรือในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ผู้บริหารระดับสูงหารือเป็นการภายในกับผู้บริหารของทั้ง 2 ประเทศอย่างเร่งด่วน ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาระบบการตรวจรับใบรับรองต่างๆ เพื่อไม่ให้ผลไม้ต้องติดค้างอยู่ที่ด่านสร้างความเสียหาย ตลอดจนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องการส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศจีน ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในผลผลิตของไทยโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายอลงกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของมาตรการด้านการตลาดต่างประเทศ ได้กำชับให้ทูตเกษตร ทูตพาณิชย์ เดินหน้าการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในรูปแบบออนไลน์ให้มากขึ้น และเป็นเซลส์แมนขายผลไม้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด รวมทั้งช่วยดูในเรื่องการจัดหาสินค้านำเข้าเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งทางอากาศ ล่าสุด นายอศิศร จันทรประภาเลิศ ทูตเกษตร ณ กรุงปักกิ่ง ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาจมีความยากลำบากในการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากคู่ค้ารายใหม่ชาวจีนไม่สามารถเดินทางมาคัดเลือกสินค้าเกษตร ณ ประเทศไทยได้ อย่างไรก็ดี ทูตเกษตรทุกคนไม่ได้นิ่งเฉย เร่งเจรจาขยายสินค้าเกษตรกับคู่ค้ารายเดิม ซึ่งจะมีตัวแทนคนจีนที่มาคัดเลือกสินค้าอยู่ที่ประเทศไทยอยู่แล้ว โดยคาดว่าสินค้าเกษตรทุกชนิดจากไทยไปจีนจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลไม้ไทยที่กำลังทยอยให้ผลผลิต ที่สำคัญได้แก่ มะม่วง ทุเรียน มังคุด



** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *



SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น