ซีพี ออลล์ ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย โดยการมอบรางวัลกว่า 21 รางวัล “เซเว่น อีเลฟเว่นไทยยั่งยืน 2562” ในงาน “วันแห่งโอกาสดี @CP ALL 2020” สนับสนุนผู้ประกอบการหลากหลายกลุ่ม พร้อมจัดเสวนาชี้แนะและแนวทางความสำเร็จในการทำธุรกิจผ่านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ชอปปิ้ง
นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม สมาคมค้าปลีกและเอสเอ็มอีทุนไทย และบริษัท ทเวนตี้โฟร์ชอปปิ้ง จำกัด จัดงานมอบรางวัล “เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2562” ขึ้นในงาน “วันแห่งโอกาสดี @CP ALL 2020” ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องเชิดชูผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพและเป็นแรงบันดาลใจให้เอสเอ็มอีทุกกลุ่ม ทุกประเภท มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการตัวเอง โดยในปีนี้มีการแบ่งประเภทรางวัลทั้งสิ้น 10 ประเภท รวมจำนวนเอสเอ็มอีที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกและได้รับรางวัลจำนวน 21 รางวัล
ทั้งนี้ งานดังกล่าวเป็นการจัดงานมอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทุกรายล้วนผ่านการพิจารณาจากทุกฝ่ายอย่างเข้มข้น เราเชื่อมั่นว่าการมอบรางวัลจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์และต่อยอดโอกาสให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าชุมชน กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับรางวัลจะเป็นเอสเอ็มอีต้นแบบให้แก่เอสเอ็มอีรายอื่นๆ ในการพัฒนาธุรกิจตัวเองให้เข้มแข็งและมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ ซีพี ออลล์ และทเวนตี้โฟร์ ชอปปิ้ง จะยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพของเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าเอสเอ็มอีกว่า 20,000 รายการ มาวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ชอปปิ้ง จากเอสเอ็มอีและเกษตรกรกว่า 50,000 ครอบครัว โดยจะได้รับคำแนะนำในการพัฒนาด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรฐานสินค้า ความปลอดภัย ราคา ความต่อเนื่องในการผลิต และการนำเทคโนโลยีมาใช้
นอกจากการมอบรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอีไทยยั่งยืนแล้ว งานวันแห่งโอกาสดี @CP ALL 2020 ในครั้งนี้ยังได้มอบโอกาสพิเศษให้แก่เหล่าเอสเอ็มอีอีกหลากหลายด้าน เช่น เสวนาพิเศษในหัวข้อ “SME Key Sucess : สำเร็จได้ ถ้ารู้เคล็ดลับ” โดยเอสเอ็มอีหลากหลายประเภทสินค้าที่ประสบผลสำเร็จทั้งในระดับท้องถิ่น และในระดับประเทศ และหัวข้อ “จะขายสินค้ากับเซเว่นฯ และ 24 Shopping ให้รุ่งต้องทำอย่างไร” โดยวิทยากรที่ดูแลเรื่องการนำสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ชอปปิ้ง
ด้าน ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า ในฐานะหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ในการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 3 ล้านราย ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการได้ทุกพื้นที่ผ่านศูนย์ให้บริการ SME ของ สสว. โดยมีมาตรการที่สำคัญที่เรียกว่า MSME 2020 เน้นการส่งเสริมเอสเอ็มอีรูปแบบใหม่ ดังนี้ 1. การปรับสถานะกองทุนภาครัฐที่เป็นแหล่งทุนสำหรับ MSME ให้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 2. พัฒนาระบบการให้ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร (SME Acadamy 365) 3. ระบบคูปองเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับวิสาหกิจรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน 4. พัฒนากลไกกลางในการพัฒนาช่องทางการตลาดให้แก่ MSME 5. มาตรการ MSME ล้มแล้วลุก ลดอุปสรรคในการฟื้นฟูธุรกิจ 6. พัฒนาระบบประเมินศักยภาพ SME และฐานข้อมูล 7. พัฒนาระบบการให้เอกชนสามารถเป็นหน่วยงานในการให้การส่งเสริม MSME 8. ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว สสว.ยังอยู่ในระหว่างร่วมกับกรมบัญชีกลางผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพื่อสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและลดการพึ่งพาตลาดหลัก ในส่วนของรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2562 นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดต้นแบบธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งมีผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการที่ดีจนสามารถขยายตลาดผ่านสาขาของร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ และจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้แก่เอสเอ็มอีรายอื่นต่อไป
ด้าน ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ รักษาการแทนผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมีนโยบายพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนภายใต้แนวคิด “ปั้น ปรุง เปลี่ยน เอสเอ็มอีให้ดีพร้อม (DIProm)” โดยการ “ปั้น” มีแนวทาง 3 ด้าน คือ 1. ปั้นเอสเอ็มอีเกษตรอุตสาหกรรมจากเกษตรดั้งเดิมสู่นักธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ 2. ปั้นเอสเอ็มอีบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา 3. ปั้นเอสเอ็มอีให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะในการทำธุรกิจ
ส่วนคำว่า “ปรุง” เป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันปรุงมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมไปสู่ภูมิภาค และสุดท้ายคือการ “เปลี่ยน” วิธีการทำงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีในทุกๆ อุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ร่วมกับซีพี ออลล์ในการมอบรางวัลครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ช่วยเชิดชูเอสเอ็มอีหลากหลายกลุ่ม รวมไปถึง SME สินค้าเกษตร ให้มีความภาคภูมิใจ มีพื้นที่ในการเติบโต และกลายเป็นเอสเอ็มอีต้นแบบ เป็นแนวทางให้เอสเอ็มอีรายอื่นๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นเอสเอ็มอีที่ดีพร้อม สร้างรายได้กลับสู่ทั้งตนเอง ชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *