xs
xsm
sm
md
lg

“สไปเบอร์ อิงค์”สตาร์ทอัป ผู้ผลิตโปรตีนชีวภาพใหญ่ที่สุดในโลก เกิดขึ้นปท.ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก EEC ได้รับการตอบรับจากบริษัทยักษ์ใหญ่จากหลายประเทศ รวมถึง บริษัทชั้นนำของญึ่ปุ่น อย่าง บริษัท สไปเบอร์ อิงค์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ด้านไบโอเทคโนโลยี ได้ประกาศตั้งโรงงานผลิตโปรตีนชีวภาพ ด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ ใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศไทย หลังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ




ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ “สไปเบอร์” เลือกลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่สมบูรณ์แบบ มีทรัพยากรชีวมวลจากภาคเกษตรกรรม ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งรองรับในอุตสาหกรรมที่ สไปเบอร์ ให้ความสนใจ เช่นอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจในอนาคต




ในขณะเดียวกันยังเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐในเรื่องการส่งเสริมด้านเกษตรกรรม ที่ต้องใช้ผลผลิตมาเป็นวัตถุดิบในโรงงาน รวมไปถึงเพิ่มการสร้างงานให้กับคนไทยด้วย ซึ่งเกษตรกรในหลายภาคส่วนได้จะประโยชน์อย่างมาก จากการเข้ามาตั้งโรงงานของ สไปเบอร์ในครั้งนี้ และในส่วนของแรงงาน ช่วยสร้างงานให้กับแรงงานในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร หรือ พนักงานทั่วไป อีกจำนวนมาก ก่อให้เกิดการจ้างงานและช่วยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไป

ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัทฯ ได้ประกาศรับพนักงานแล้วในหลายอัตรา ได้แก่ วิศวกรการผลิต, วิศวกรโรงงาน, ทรัพยากรบุคคล ธุรการ, บัญชีและการเงิน พนักงานขับรถ ฯลฯ โดยทาง บริษัทสไปเบอร์ อิงค์ จะจัดรับสมัครงานที่กรุงเทพฯในวันที่ 7 มี.ค.2563 และที่ระยองในวันที่ 8 มี.ค. 2563 ผู้สนใจจะร่วมงานกับสไปเบอร์ ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.spiber.jp/en/archives/2337 ซึ่งผู้ที่คิดว่ามีทักษะหรือความพร้อม สามารถไปสมัครได้


แหล่งข่าวจากบริษัท สไปเบอร์ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึง “สไปเบอร์อิงค์” ว่า เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่ล้ำหน้าและทันสมัยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งในขณะนี้ และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรด้านนี้กว่า 200 รายการ ซึ่งวัสดุที่ผลิตจากเทคโนโลยีของบริษัทจะเป็นวัสดุที่มีความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพ ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรปิโตรเลียมแบบดั้งเดิม

โดยผลผลิตจากเทคโนโลยีชีวภาพของบริษัทฯ สามารถนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ สิ่งทอ ยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ ยางรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งการได้รับการอนุมัติจากบีโอไอเพื่อก่อตั้งโรงงานในประเทศไทย ส่งผลให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ และคิดค้นพัฒนา นวัตกรรมด้านการสร้างเส้นใยสำหรับคนรุ่นต่อไป เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับโลกและช่วยสร้างสังคมโลกที่สงบสุขและยั่งยืนในอนาคตด้วย




ทั้งนี้การเปิดโรงงานในประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อส่งออกไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศญีปุ่น บริษัทแม่จะเป็นผู้ทำการตลาดและหาลูกค้า ซึ่งโรงงานที่จะสร้างในประเทศไทย จะเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกำลังการผลิตหลายร้อยตัน ปัจจุบันนี้มีโรงงานที่ผลิตโปรตีนชีวภาพเพียงแค่ 3 แห่ง คือ ที่ประเทศเยอรมัน สหรัฐอเมริกา และในประเทศไทย





การมาสร้างโรงงานที่ประเทศไทยนับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น โดยมีปัจจัยหลักในการพิจารณาคือ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรชีวมวลด้านเกษตรกรรม ที่นำมาใช้ในการผลิตเป็นจำนวนมาก เช่น กากน้ำตาล (Molasses) โดยสไปเบอร์ กำลังมองหาพันธมิตรธุรกิจทางด้านนี้ด้วย ในขณะเดียวกันประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของสไปเบอร์


ทั้งนี้ โปรตีนชีวภาพที่ผลิตโดยสไปเบอร์ สามารถนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ ที่ไม่เป็นอันตรายเมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายของคน นอกจากนี้ ยังนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำเส้นใย สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยสไปเบอร์ได้ร่วมกับNorthface ในการพัฒนาเครื่องนุ่งห่มที่มีความนุ่ม เบา และอุ่น ล่าสุดได้ร่วมกับ Yuima Nakazato ดีไซน์เนอร์ซื่อดังของญี่ปุ่น ในการนำโปรตีนชีวภาพของสไปเบอร์ไปใช้ในคอลเลคชั่นล่าสุดที่งานปารีส แฟชั่นวีค เมื่อปลายปี 2019 ที่ผ่านมา

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
www.facebook.com/SMEs.manager">

SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น