xs
xsm
sm
md
lg

เมนูเด็ดนักเล่นกล้าม! “จิ้งหรีดชุติกาญจน์” แหล่งโปรตีนไร้สาร ผลิต 10 ตันต่อเดือน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สำหรับคนไทยแล้ว “จิ้งหรีด” ถือเป็นแมลงที่หลายคนมองข้าม ทั้งๆ ที่เป็นสินค้าส่งออกสร้างรายได้ให้ชาวบ้านใน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มาหลายปี มีกำลังการผลิตสูงถึง 10 ตันต่อเดือนกลายเป็น “ฟาร์มจิ้งหรีดชุติกาญจน์” และยังได้รับการสนับสนุนในเรื่องเงินทุน และองค์ความรู้จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Development Bank เพื่อมาใช้พัฒนาธุรกิจ ให้ก้าวไกลสู่ตลาดสากล

แนวคิดในการเริ่มต้นของธุรกิจนี้เกิดจาก “คุณชุติกาญจน์ เจื้อยแจ้ว” ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฟาร์มจิ้งหรีดชุติกาญจน์ ต้องการที่จะมีรายได้เสริมจากงานประจำเพื่อให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็สังเกตว่าชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงนิยมเลี้ยงจิ้งหรีดกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ได้รับการต่อยอดในเชิงธุรกิจมากนัก เธอจึงเรียนรู้เทคนิคการเลี้ยงการลองผิดลองถูกประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของจำนวนจิ้งหรีดที่มีอัตราการตายสูง ซึ่งเธอมาค้นพบว่าเกิดจากความไม่สะอาดของแผงไข่ที่นำมาเลี้ยง อาหาร และน้ำ ที่ไม่สะอาดเพียงพอ



ดังนั้น เธอจึงแก้ปัญหาในเรื่องของแผงไข่เป็นอันดับแรกที่จากเดิมชาวบ้านจะฆ่าเชื้อโรคด้วยการนำไปตากแดดแต่เชื้อโรคจะตายไม่หมด 100% เธอจึงคิดนวัตกรรมเครื่องอบฆ่าเชื้อแผงไข่ โดยได้รับการสนับสนุนในเรื่องของเงินทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ทำให้แผงไข่สามารถใช้ได้นานหลายครั้งช่วยประหยัดต้นทุนในการเลี้ยงไปได้มาก รวมถึงยังได้นำเงินทุนที่ได้รับมาพัฒนาเป็นมาตรฐานฟาร์มจิ้งหรีดแบบปิด จนสามารถเจาะตลาดส่งออกได้เป็นผลสำเร็จอย่างประเทศฟินแลนด์ แคนาดา และ สหรัฐอเมริกา

“จิ้งหรีดถือเป็นแมลงที่เลี้ยงง่าย โตไว ได้เงินเร็วสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากแมลงตัวเล็กๆ เหล่านี้ได้ เพราะนอกจากจะส่งขายแบบเป็นตัวแล้วยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผงเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในอาหารคุกกี้ บราวนี่ หรือแม้กระทั่งเป็นอาหารเสริมของนักเล่นกล้าม นักมวย เนื่องจากจิ้งหรีดเป็นแหล่งโปรตีนที่สะอาดปลอดสารพิษและมีคุณค่าทางอาหารสูง ดังนั้น ผู้บริโภคมั่นใจได้ในเรื่องของสารพิษตกค้างในการบริโภคเพราะหากจิ้งหรีดได้รับสารพิษจะตายทันทีซึ่งเราก็ไม่นำมาแปรรูปหรือส่งขายให้ลูกค้า”

ปัจจุบันจิ้งหรีดกลายเป็นรายได้เสริมของชาวบ้านใน อ.ศรีสัชนาลัย ประมาณ 30-40 ราย ไปแล้ว โดยจะมีรายได้เพิ่มโดยเฉลี่ยประมาณ 20,000 - 30,000 บาท/ครัวเรือน จากการเลี้ยงจิ้งหรีดตามที่ได้รับการอบรมจากฟาร์มจิ้งหรีดชุติกาญจน์ มีการประกันราคาทำให้ชาวบ้านมีรายได้ที่แน่นอน ขณะที่ใช้เวลาช่วงเย็นในการดูแลจิ้งหรีด เพียง 40-45 วัน ก็ส่งขายได้ก็มีรายได้แล้ว

สำหรับการเลี้ยงจิ้งหรีดจะอยู่ในกล่องขนาด 1.20X2.40 เมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ทางฟาร์มจิ้งหรีดชุติกาญจน์ เข้าไปช่วยให้คำแนะนำหรือหากผู้เลี้ยงมีพื้นที่ที่เล็กกว่านั้นก็สามารถปรับกล่องได้ตามสภาพพื้นที่นั้นนั้นได้โดยการเลี้ยงจิ้งหรีดค่อนข้างง่าย เพียงให้อาหารและดูแลเรื่องความสะอาด น้ำดื่ม และห้ามให้มีแมลงหรือสัตว์เลี้ยงมารบกวนโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้จิ้งหรีดตายได้

สำหรับโอกาสในการเลี้ยงจิ้งหรีดเชิงพาณิชย์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเพราะเป็นโปรตีนแห่งอนาคตไร้สารตกค้างซึ่งทางฟาร์มจิ้งหรีดชุติกาญจน์ได้นำจิ้งหรีดมาแปรรูปที่เน้นความหลากหลายเช่น จิ้งโก่ง เป็นจิ้งหรีดตัวใหญ่ประมาณเหรียญสิบบาท จะมีไข่เต็มท้องทำให้มีความมันในระหว่างรับประทานขายปลีกในราคากิโลกรัมละประมาณ 200 บาท ส่วนสะดิ้ง หรือจิ้งหรีดขาว จะเป็นที่ต้องการในต่างประเทศมาก ส่วนคนไทย ก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน เพราะมีขนาดตัวกำลังดีและมีไข่ให้เคี้ยวเพลินๆ

หรือใครที่ต้องการทดลองเลี้ยงจิ้งหรีดหวังยึดเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้หลักหรือรายได้เสริมทางฟาร์มจิ้งหรีดชุติกาญจน์ ก็ได้เพราะไข่จิ้งหรีดบรรจุถุงจัดส่งได้ทั่วไทยให้กับผู้สนใจได้นำไปทดลองเพาะเลี้ยงเพียง 6-7 วันก็จะเป็นตัวแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรวยทางลัดด้วยแมลงตัวเล็กๆ อย่าง ‘จิ้งหรีด’ ที่ไม่แน่ในอนาคตอาจเป็นแมลงเศรษฐกิจเจาะตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยก็เป็นได้

สนใจโทร. 086-4482520
LINE : song3555 facebook : Cricket by Chutikan farm
E-mail : Naliree@hotmail.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *




กำลังโหลดความคิดเห็น