หนุ่มน้อยชาวกระบี่ที่ครอบครัวรับซื้อพืชผลการเกษตร ด้วยความช่างคิดที่ไม่หยุดนิ่ง สืบเสาะศึกษา เห็นว่าธุรกิจด้านอาหารเป็นธุรกิจที่มีอนาคตเพราะอย่างไรเสียมนุษย์ยังต้องกินต้องบริโภค ประจวบกับได้รับการสนับสนุนจาก SME Development Bank จึงได้นำภูมิปัญญาอาหารสูตรคุณแม่ที่ทำ “หมูฮ้อง” ที่แสนอร่อย ซึ่งเป็นสาวชาวฮกเกี้ยนของปักษ์ใต้โดยกำเนิด มาวันนี้ ‘หมูฮ้อง ตราฮกเกี้ยน’ ได้โบยบินไปวางตลาดแทบทุกภาคของไทยแล้ว
เด็กหนุ่มวัยเพียง 28 ปี “สมโชค น่าเยี่ยม” ผู้บริหาร บริษัทกระบี่ฟู้ดส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิต “หมูฮ้อง” แบรนด์ฮกเกี้ยน เมนูเด็ดที่นับวันจะหารับประทานได้ยากเต็มที และผู้คนรู้จักน้อยลง เขาจึงขอรื้อฟื้นอาหารจานเด็ดนี้ให้เป็นที่แพร่หลาย ด้วยการนำนวัตกรรมการถนอมอาหารด้วยระบบรีทอร์ต (Retort) มาใช้ ทำให้หมูฮ้องเก็บได้นานขึ้น และเพียงแค่ฉีกซองก็รับประทานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเคี่ยวหมูสามชั้นนาน 3-4 ชั่วโมง
โดยจุดเริ่มต้นของธุรกิจมาจากที่ "นายสมโชค" ต้องการทำธุรกิจที่เป็นของตัวเองตามสไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเน้นที่ความเสี่ยงน้อยที่สุด จึงเลือกเมนูอาหารใกล้ตัวอย่าง “หมูฮ้อง” ที่คุณแม่มีฝีมือในการทำเมนูนี้มาก จนเป็นที่รู้กันว่าถ้าที่บ้านจัดงานพบปะเพื่อนฝูง หรือมีวาระพิเศษ สมาชิกในบ้านจะได้ลาภปากกับเมนูนี้
เขาจึงคิดที่จะสานต่อเมนูนี้ให้รับประทานง่ายและสามารถรับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา จึงได้นำเครื่องรีทอร์ต ซึ่งเป็นการฆ่าเชื้อด้วยแรงดันจากไอน้ำ ช่วยยืดอายุอาหารให้นานขึ้น ขณะที่สูตรก็ใช้เวลาปรับประมาณ 1 ปี จนได้สูตรที่นิ่ง เป็นสูตรกลางๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งเครื่องเทศตามแบบฉบับดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน เช่น อบเชย กระวาน พริกไทย รากผักชี และโป๊ยกั๊ก ปราศจากผงชูรส และวัตถุกันเสีย
‘หมูฮ้องสำเร็จรูป’ ตราฮกเกี้ยน เจ้าแรกในไทยก็เกิดขึ้น ถูกบรรจุลงในแพกเกจสีแดงสวยสะดุดตา ขนาด 190 กรัม เก็บได้นาน 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น พร้อมมีขั้นตอนการรับประทาน และตำนานหมูฮ้องระบุไว้อย่างชัดเจน โดยจุดเด่นอยู่ที่รสชาติกลมกล่อม เน้นความดั้งเดิมของเมนูในตำนาน ทำสดใหม่จากเครื่องจักรที่ทันสมัย มีช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยกลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยว วัยรุ่น คนในจังหวัดกระบี่ และร้านอาหารที่ต้องการเพิ่มเมนูอาหาร
มาวันนี้ ‘หมูฮ้องสำเร็จรูป’ ตราฮกเกี้ยน จากเดิมที่จำหน่ายตามร้านขายของฝากในภาคใต้ อย่าง จ.กระบี่ ภูเก็ต พังงา และตรัง รวมถึงบุกภาคอีสาน จ.อุดรธานี โดยการไปออกบูทก็มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ขณะที่ได้กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคแล้ว โดยขายในราคากล่องละ 129 บาท
จากความแตกต่างนี้เองทำให้ธุรกิจนี้ได้รับความสนใจจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME Development Bank ปล่อยสินเชื่อในโครงการประชารัฐ จำนวน 3 แสนบาท และกองทุน Tranformation Loan อีก 3 ล้านบาท ซึ่งเขาจะนำไปซื้อเครื่องรีทอร์ตเพิ่มเติม และพัฒนาภาคการผลิตให้ได้มาตรฐานสากล จากเดิมที่ได้ อย.แล้ว ซึ่งหากขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยจะมีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 30,000 ชิ้น/เดือน พร้อมรับตลาดส่งออกในแถบ CLMV ที่กำลังจะวางแผนต่อไปในอนาคต
***ติดต่อ 09-3660-5218 หรือที่ Facebook: หมูฮ้อง ฮกเกี้ยน และ Line Id: @Hokkien***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *