กรมวิทย์ตรวจ “โรตีสายไหม” อยุธยาแล้ว ไม่พบสารกันเสียเกินค่ามาตรฐาน เหล่าออเจ้ามาตามรอยบุพเพสันนิวาสวางใจได้ ซื้อรับประทานเป็นของฝากได้มั่นใจ
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า โรตีสายไหมเป็นขนมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาไหว้พระและซื้อโรตีสายไหม เพื่อเป็นของฝาก อีกทั้งปัจจุบันจากกระแสละครบุพเพสันนิวาส ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้โรตีสายไหมขายดี ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในการบริโภคโรตีสายไหม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร จึงได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุ่มเก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 แบ่งเป็นแผ่นแป้งโรตี และผงแป้งอเนกประสงค์ เพื่อตรวจวิเคราะห์วัตถุกันเสีย ได้แก่ กรดเบนโซอิก และ กรดซอร์บิก ผลการตรวจวิเคราะห์ไม่พบกรดซอร์บิกทุกตัวอย่าง แต่พบวัตถุกันเสียชนิดกรดเบนโซอิก แต่ไม่เกินมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนั้น นักท่องเที่ยวสามารถซื้อโรตีสายไหมไปรับประทานและเป็นของฝากได้อย่างมั่นใจ
นพ.สุขุม กล่าวว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ปริมาณกรดเบนโซอิกในแป้งอเนกประสงค์ ซึ่งจัดเป็นส่วนผสมสำเร็จรูปสำหรับผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ไม่เกิน 500 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม และไม่อนุญาตให้ใช้กรดซอร์บิก ส่วนแผ่นแป้งโรตีกำหนดปริมาณกรดเบนโซอิก สำหรับอาหารประเภทธัญชาติและผลิตภัณฑ์ธัญชาติ ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม และปริมาณกรดซอร์บิกไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม
“กรดเบนโซอิกเป็นวัตถุกันเสียที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายชนิด รวมถึงใช้สำหรับรักษาคุณภาพของเครื่องสำอางและยาสีฟัน โดยกรดเบนโซอิกสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ สำหรับความเป็นพิษของกรดเบนโซอิก หากได้รับปริมาณที่สูงอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียได้ หากได้รับปริมาณน้อยร่างกายจะสามารถขับออกให้หมดไปได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณมากหรือได้รับทุกวันอาจเกิดการสะสมจนถึงระดับที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายได้โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้ ดังนั้น ผู้บริโภคไม่ควรบริโภคอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน และบริโภคในปริมาณที่มาก” นพ.สุขุม กล่าว