พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ. พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบสารปนเปื้อนในโรตีสายไหม พร้อมให้คำแนะนำพ่อค้าแม่ค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภครับสงกรานต์
วันนี้( 9 เม.ย. ) นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายอุดม ขำมี สาธารณสุขอำเภอพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายโรตีสายไหมบริเวณหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เพื่อควบคุมคุณภาพ ความสะอาดและสารปนเปื้อนในอาหาร สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาซื้อโรตีสายไหมเป็นของฝาก
นายอุดม ขำมี กล่าวว่า โรตีสายไหม ถือเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการพบสารเบนโซอิก หรือ สารกันบูด ปนเปื้อนอยู่ในแป้งโรตีสายไหมของบางร้านจนเกินมาตรฐาน ดังนั้น จึงได้นำคณะมาลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแก่พ่อค้าแม่ค้า โดยระบุว่า การใส่สารกันบูดในอาหารนั้นสามารถทำได้ เพื่อช่วยถนอมอาหารให้มีความสดใหม่ แต่จะต้องไม่เกินมาตรฐานที่ อย. กำหนดไว้ คือ ไม่เกิน 1,000มิลลิกรัม / อาหาร 1 กิโลกรัม ส่วนการใส่สีผสมอาหารจะต้องไม่เกิน 1 มิลลิกรัม / อาหาร 1 กิโลกรัม แต่หากไม่ใส่เลยจะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัย
“มาตรฐานของเราคือไม่ให้เกิน 1,000 มิลลิกรัม / อาหาร 1 กิโลกรัม ก่อนหน้านี้เราไปเจออยู่ 4 ร้าน ที่เกินมาตรฐาน ตั้งแต่ 1,100-1,500 มิลลิกรัม ซึ่งในวันนี้เราก็ได้มาแก้ไขและให้คำแนะนำ และอีกเรื่องหนึ่งคือสีผสมอาหาร เราก็มีมาตรฐานว่าไม่ควรเกิน 1 มิลลิกรัม / 1 กิโลกรัม ซึ่งก็มีส่วนกลางมาตรวจ แต่ไม่เกินมาตรฐาน ก็อยากให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่า เราจะทำให้สินค้าของจังหวัดฯ มีมาตรฐานและปลอดภัย”
นายอุดม ขำมี กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะให้พ่อค้าแม่ค้านำตัวอย่างโรตีสายไหม ทั้งแป้งและเส้น ไปให้ทางสำนักงานสาธารณสุขดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบคุณภาพของสินค้าให้มีความปลอดภัย หากยังพบผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำผิด จะต้องได้รับโทษ คือ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ จะมีการเรียกเจ้าของร้านค้าโรตีสายไหมทั้งหมด มาร่วมหารือถึงความเป็นไปได้ในการงดใส่สารกันบูดและสีผสมอาหารในโรตีสายไหม เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน