xs
xsm
sm
md
lg

สถานการณ์"เอสเอ็มอี"ปีระกา พร้อมหรือยัง? ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร.พสุ  โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
จากการที่รัฐบาล พยายามผลักดันประเทศไทย ก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 และในส่วนของภาคธุรกิจเอกชนของไทย พร้อมหรือยังที่จะก้าวเข้าสู่ อุตสาหกรรม 4.0 รวมไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ไทย เขาเหล่านี้ คิดว่า ในปี 2560 จะอยู่ในสถานะหรือระดับใด สำหรับอุตสาหกรรม 4.0

ทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของ SMEs บอกถึงสถานะของSMEs ไทย ในปัจจุบัน จากข้อมูล พบว่าอยู่ในระดับตั้งแต่ 2.0 และ 2.5 ไปจนถึง 3.0 มีอยู่มากถึง 80% 
 นายสมคิด จาตรุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ผู้ที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายรัฐ
ทั้งนี้ สาเหตุและปัญหาที่ทำให้ การประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ ไม่ประสบผลสำเร็จ และก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับ 3.5 หรือ 4.0 ได้นั้น จากการสำรวจนักวินิจฉัยเฉพาะทาง ภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs พบว่าสถิติที่น่าเป็นห่วงและพบบ่อยสำหรับผู้ประกอบการ มีด้วยกันทั้งหมด 8 ปัญหา เรียงลำดับ ดังนี้ 1. ปัญหาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม 2. ปัญหาด้านการผลิต 3. ปัญหาด้านการตลาด 4. ปัญหาด้านการอยู่ร่วมกับสังคม 5. ปัญหาด้านการเงิน 6 ปัญหาด้านบุคลากร 7. ปัญหาด้านการจัดซื้อและปัจจัยการผลิต และ 8. ปัญหาด้านการบริหารองค์กรและกลไก

คาดการณ์ SMEs ไทย ก้าวสู่ SMEs 4.0 ภายใน ปี 2564

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายภาระหน้าที่สำคัญที่ช่วยผลักดัน และส่งเสริมSMEs ไทย ให้สามารถก้าวเข้าสู่ อุตสาหกรรม 4.0 ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี โดยปี 2560 ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้รับงบประมาณจำนวน 830 ล้านบาท ดำเนินโครงการ 35 โครงการ โดยมุ่งเป้าการส่งเสริมผู้ประกอบการ ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ กลุ่ม S-Curve และ ซุปเปอร์คลัสเตอร์ กลุ่ม SMEs เป็นกลุ่มเดิมที่กรมฯ ได้เข้าช่วยเหลือ และทำงานต่อเนื่อง และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่ม OTOP

"อย่างไรก็ตาม การที่จะผลักดัน ให้ SMEs เข้าสู่ยุค 4.0 นั้น อาจจะไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่ 1ถึง 2 ปี อาจจะต้องใช้มากกว่า นั้น ซึ่งในส่วนของ SMEs เองก็ต้องปรับตัว เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น SMEs ยุคใหม่ และต้องมีแนวคิดในการปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการแข่งขัน ไม่ว่าจะทำธุรกิจทั้งในหรือต่างประเทศก็ต้องปรับปรุงรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป" 

ทั้งนี้ การจะเข้าสู่ยุค 4.0 ได้ ต้องรู้จักก้าวทันกระบวนการทางเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ระบบดิจิทัลต่างๆ และการบริการ มาใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน สำหรับความพร้อมของประเทศไทยเอง ถือว่ายังต้องเร่งขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการเหล่านี้ในตัวผู้ประกอบการอีกมาก ซึ่งหากทำได้ SMEs ไทยเหล่านี้ก็จะเป็นผู้นำพาประเทศก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง

สำหรับในปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จัดตั้งโครงการ กิจกรรม และบริการต่างๆ เพื่อผลักดันผู้ประกอบการให้เกิดความเป็น Digital SMEs กว่า 10 โครงการ ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นผู้ประกอบการให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆมาใช้ในการดำเนินธุรกิจได้จำนวนมาก ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2564 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ได้อย่างเต็มตัว พร้อมทั้งขยับตัวเลข GDP แตะที่ร้อยละ 50 ซึ่งจะเป็นประเทศที่มีรายได้สูงตามที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้

GDP SMEs ปี 2560 รออานิสงส์ เติบโตของภาคการท่องเที่ยว

ในส่วนของ GDP SMEs ภาพรวมสามไตรมาสแรกของปี 2559 มีมูลค่า 4.4 ล้านล้านบาท ซึ่งมีอัตราการขยายตัวในอัตราร้อยละ 5.1 ทำให้มีสัดส่วนต่อ GDP รวมของประเทศคิดเป็นร้อยละ 42.0 อันมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก SMEs ในภาคบริการซึ่งสามารถเติบโตได้ดีร้อยละ 6.6 โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โรงแรมและภัตตาคาร การขนส่ง ส่วนภาคการค้ามีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.3 สำหรับในภาคอุตสาหกรรมนั้นปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีการขยายตัวที่ค่อนข้างต่ำ คือร้อยละ 0.9

สำหรับธุรกิจ SMEs นั้น ในปี 2559 นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่หลายๆ ธุรกิจจะต้องเผชิญกับความท้าทาย อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจ และสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นในตลาด ทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้น จำเป็นที่ SMEs จะต้องดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ มีการบริหารจัดการ ต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และป้องกันความเสี่ยงภายใต้ต้นทุนที่รับได้ ตลอดจนแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2560 รักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ใกล้เคียงหรือดีขึ้น คงต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวของภาคเอกชนในหลายๆ กลุ่มธุรกิจ เข้ามาช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากแรงผลักดันจากการลงทุนของภาครัฐและการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ซึ่ง กสอ.คาดว่า GDP SMEs ปี 2560 จะเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ คืออยู่ประมาณร้อยละ 5-5.5 สอดคล้องกับ GDP ประเทศที่โตร้อยละ 3-3.5

ปัจจัยหนุนการเติบโต SMEs ปี 2560

สำหรับปัจจัยที่จะมาเอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอีไทยในปี 2560 จะมาจากหลายทาง แต่ปัจจัยหลักน่าจะมาจากการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมที่เม็ดเงินลงทุนจะสามารถเข้าสู่ระบบได้มากยิ่งขึ้นในปี 2560 รวมถึง การสนับสนุนการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย, การส่งเสริมการลงทุนภายใต้แผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก การส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับประเทศเข้าสู่ “ประเทศไทย 4.0”

ขณะที่อุปสงค์จากต่างประเทศ มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2559 จากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นของภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลก นำโดยการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นภายหลังจากการเลือกตั้ง และอีกปัจจัยที่คาดว่าจะสนับสนุนความต้องการสินค้าในภาคอุตสาหกรรม คือ การท่องเที่ยวในปี 2560 ที่ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2560 ไว้ที่ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีเป้าหมายรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบ SMEs พึงระวัง พร้อมแผนรับมือ ในปี 2560

สำหรับ สิ่งที่ต้องพึงระวังและรับมือในปี 2560 คือเรื่องความผันผวนทางเศรษฐกิจทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ การปกป้องทางการค้าที่ประเทศต่างๆ จะนำมาใช้กันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ อาทิ ต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงขึ้น สภาวะการเงินที่ผันผวน ปัญหาความขัดแย้งและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับทางเศรษฐกิจต่างๆผู้ประกอบการจึงควรศึกษาทิศทางเหล่านี้ให้ละเอียดก่อนที่จะสร้างแผนหรือโครงการต่างๆในการดำเนินธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรับมือให้ทันในปี 2560 คือช่องทางและรูปแบบการค้าต่างๆที่จะมีการขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ รวมทั้งนโยบายจากภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมให้ประเทศก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs จะต้องรู้จักการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา รวมทั้งระบบดิจิทัลต่างๆมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจของตน ทั้งต้องรู้จักสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสินค้าและบริการต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างครบวงจร จึงจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น