กสอ. หนุนอุตสาหกรรมแฟชั่น ดันไทยขึ้นแท่น “มิลานแห่งเอเชีย” ชูแนวพัฒนาอุตสาหกรรมเกี่ยวข้อง ได้แก่ สิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่ม อัญมณี-เครื่องประดับ และเครื่องหนัง-รองเท้า พร้อมอัดงบกว่า 70 ล้านบาท ปั้นดีไซเนอร์เลือดใหม่ แจ้งเกิดในวงการไม่น้อยกว่า 125 กิจการ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ 6.4 แสนล้านบาท
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เผยว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคในระดับต่างๆยังมีความต้องการและกำลังซื้อในระดับสูง พร้อมกันนี้ยังมีแนวโน้มในการผลิตเพื่อส่งออกในต่างประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เอเชีย รวมถึงยังสามารถขยายเข้าสู่ยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นผลมาจากความมีเอกลักษณ์ของสินค้า รวมทั้งภาพลักษณ์ที่ดีในด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมแฟชั่นของเมืองไทย ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในระดับแถวหน้าของทวีป โดยในขณะนี้เป็นรองแค่ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง และสิงคโปร์
ดร.พสุ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวโน้มการเติบโตที่ดีดังกล่าว กสอ. จึงได้วางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมแฟชั่นในภูมิภาคอาเซียนและก้าวสู่การเป็นผู้นำในระดับเอเชีย หรือเป็น “มิลานแห่งเอเชีย” ในขั้นต่อไป
ทั้งนี้ แนวทางจะไปถึงเป้าดังกล่าว ต้องพัฒนาใน 3 อุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้อง ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า ผ่านการพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาการออกแบบ การพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาตราสินค้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องเดินหน้าพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการออกแบบ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยเติบโตและก้าวทันกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
อธิบดี กสอ. ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2560 กสอ. ได้จัดสรรงบประมาณเบื้องต้น กว่า 70 ล้านบาท เพื่อผลักดันและพัฒนาผู้ประกอบการและนักออกแบบด้านแฟชั่นผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการสร้างนักออกแบบและผลิตภัณฑ์ โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นและไลฟ์สตล์ พร้อมกันนี้ยังมีศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ THAILAND INDUSTRIAL DESIGN CENTER รวมถึงโครงการ Thai Touch Project เป็นต้น
โดยเบื้องต้นได้วางเป้าหมายให้เกิดการจัดตั้งกิจการได้ไม่น้อยกว่า 125 กิจการ เกิดผู้ประกอบการมากกว่า 1,140 คน / 25 ราย สร้างเครือข่าย 1 เครือข่าย (40คน) พร้อมทั้งสามารถพัฒนาสินค้าได้มากกว่า 50 ผลิตภัณฑ์ โดยยังได้ตั้งเป้าให้เกิดมูลค่าทางอุตสาหกรรมแฟชั่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ในปี 2558 มูลค่าอยู่ที่ 6.4 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมรุกแผนการประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ ซึ่งหากสามารถพัฒนาเป้าหมายที่วางไว้ได้ทุกจุด ก็จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างยั่งยืน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *