xs
xsm
sm
md
lg

กระแสดี! งาน Organic & Natural Expo ตลาดยังต้องการผลผลิตสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางอภิรดี   ตันตราภรณ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
พาณิชย์เตรียมจัดงาน Organic & Natural Expo 2016 เดือน ก.ค. คาดผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 40,000 ราย หลังพบความต้องการสินค้าออร์แกนิกเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและตลาดส่งออก แต่ผลผลิตยังมีไม่เพียงพอ เชื่ออนาคตเกษตรกรจะหันมาให้ความสำคัญต่อการปลูกพืชลักษณะนี้มากขึ้น

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์จะจัดงานแสดงสินค้า Organic & Natural Expo ดังกล่าวอีกเป็นครั้งที่ 6 ในเดือนกรกฎาคม เป็นเวลา 4 วัน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 40,000 ราย เนื่องจากสินค้าอินทรีย์เป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพบว่าหลังจากการจัดงานดังกล่าวมีผู้ที่มาชมงานได้รับความรู้ และความเข้าใจเรื่องสินค้าอินทรีย์มากขึ้น อีกทั้งพบว่าปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่เริ่มหันมาทำเกษตรแนวธรรมชาติมากขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้จัดงานแสดงสินค้า Organic & Natural Expo 2015 อย่างต่อเนื่องมาแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอินทรีย์และธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากจะเป็นที่รวมผู้ผลิต ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าและบริการอินทรีย์และธรรมชาติอย่างครบวงจร และมีเวทีการสัมมนาให้ความรู้ด้านต่างๆ เช่น มาตรฐานสินค้าอินทรีย์ แนวโน้ม และช่องทางการตลาด และยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่ด้านการผลิต การรับรองมาตรฐาน การตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เกษตรกร และผู้ผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำสู่ผู้บริโภค รวมไปถึงสร้างภาพลักษณ์สินค้าและบริการเกษตรอินทรีย์ไทยให้เป็นที่นิยมในตลาดทั้งในและต่างประเทศ จึงนับเป็นเวทีการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหารของภูมิภาคอาเซียน โดยในปีที่ผ่านมามีบริษัทเข้าร่วมจัดแสดง 215 ราย 287 คูหา มีผู้เข้าร่วมชมงานทั้งชาวไทย และต่างชาติ 37,734 ราย มียอดขายทันทีในงานกว่า 15 ล้านบาท

สำหรับในปี 2560 กระทรวงฯ มีแผนจะจัดงานดังกล่าวร่วมกับผู้จัดงานอินทรีย์ระดับโลก คือ Nuremberg Messe ซึ่งเป็นผู้จัดงาน BIOFACH ซึ่งเป็นงานแสดงนิทรรศการอาหารและงานบริการอินทรีย์ชั้นนำของโลก งานดังกล่าวจัดขึ้นที่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremburg) ประเทศเยอรมนี จัดติดต่อกันมาปีนี้เป็นปีที่ 27 มีประเทศที่เข้าร่วมจัดแสดงถึงจาก 134 ประเทศทั่วโลก ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศเยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งประเทศไทย ระยะเวลาของงานแสดงนิทรรศการมีทั้งหมด 4 วัน ซึ่งนอกจากการแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการ 2,235 รายแล้ว ยังมีการประชุมต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่และเล็กกว่า 74 รายการ รวมไปถึงการประชุมเชิงนโยบายของกลุ่มผู้ประกอบการด้านอินทรีย์อีกด้วย

“ขณะนี้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างการหารือ และการเตรียมการเพื่อหาแนวทางความร่วมมือเพื่อยกระดับงาน Organic &Natural Expo ให้เป็นงานระดับสากลชั้นนำของเอเชีย ซึ่งในอนาคตนอกจากจะสามารถดึงบริษัทที่อยู่ในวงการอินทรีย์ ทั้งที่เป็นสินค้าอาหาร และที่ไม่ใช่อาหารรวมทั้งบริการต่างๆ มาประเทศไทยแล้ว ยังเป็นเวทีที่จะให้ผู้ประกอบการไทย และเกษตรกรได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเกี่ยวกับสินค้าอินทรีย์ อีกทั้งยังเป็นการแสดงศักยภาพด้านความปลอดภัยของอาหารของประเทศไทย” นางอภิรดีกล่าว

ทั้งนี้ จากรายงานสภาพการณ์เกษตรอินทรีย์โลกระบุว่า มูลค่าสินค้าอินทรีย์ในตลาดโลกปัจจุบันมีมูลค่ารวมสูงถึงกว่า 2 ล้านล้านบาท ถึงแม้ว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ก็ยังสามารถขยายตลาดได้กว่า 2.5 เท่า สำหรับประเทศไทยคือแหล่งผลิตสินค้าอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศ โดยพืชที่นิยมปลูกแบบอินทรีย์มากที่สุดในไทย คือ ข้าว ซึ่งถือว่าไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์มากที่สุดในโลก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์เป็นสินค้าที่ตลาดในสหภาพยุโรปต้องการสูงมาก และมีแนวโน้มในการขยายตลาดมากขึ้นในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณและชนิดของผลผลิตก็ยังมีจำนวนไม่มาก ที่สำคัญประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้ส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของโลก จึงมีโอกาสอย่างมากในการพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรไปสู่สินค้าอินทรีย์ ทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศ และเพื่อส่งออก ซึ่งการจะก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอินทรีย์ที่สำคัญของโลกได้นั้น ภาครัฐบาลพร้อมที่จะช่วยผลักดันและเร่งรัดให้มีการทำเกษตรอินทรีย์และสินค้าแปรรูปอินทรีย์ ทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหารให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อการบริหารจัดการทั้งในด้านการผลิตและการตลาดควบคู่กันไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น