บริษัท แบงค็อค เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (BES) เผย ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมไทย ปี 2559 รับอานิสงส์เปิด AEC และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ส่ง เศรษฐกิจไทยปี 59 ฟื้นตัว พร้อมมั่นใจ 2 งานใหญ่ไทย “งานโพรแพ็ก เอเชีย” และ “งานฟูด แอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์” ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% คาดเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 31,000 ล้านบาท ลั่นพร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมระดับโลก
มร.จัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (BES) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมนานาชาติของไทยว่า ปีที่ผ่านมาแม้ไทยจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยังสามารถเติบโตได้ประมาณ 15-20% จากการที่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการธุรกิจต่างเล็งหาโอกาสและลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น โดยอาศัยช่องทางการร่วมออกงานแสดงสินค้าที่มีชื่อเสียง
สำหรับแนวโน้มในปีนี้ (2559) ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย เป็นปัจจัยส่งให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนผลิตสินค้าและบริการให้มีศักยภาพทางการแข่งขัน ทำให้ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมปีนี้มีแนวโน้มที่คึกคักกว่าหลายปีที่ผ่านมา
โดยในปี 2559 แผนการจัดงานสินค้าอุตสาหกรรมนานาชาติของบีอีเอส มีทั้งหมด 6 งาน โดยเป็นงานที่จัดขึ้นในประเทศไทย 2 งาน ประกอบด้วย 1. งานโพรแพ็ก เอเชีย (ProPak Asia) แสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีกระบวนการผลิต การแปรรูปอาหาร เครื่องดื่ม เวชภัณฑ์ และ บรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเซีย 2. งานฟูด แอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์ (Food & Hotel Thailand) งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการระดับนานาชาติ มีพื้นที่การจัดงานรวมกันกว่า 65,000 ตารางเมตร คาดว่าการจัดงานทั้ง 2 งานในประเทศไทยจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 15-20% มีเม็ดเงินหมุนเวียนจากการจัดงานรวมกันถึง 31,000 ล้านบาท
นอกจากนั้น บีอีเอสมีการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมขึ้นในประเทศพม่าอีก 4 งาน ประกอบด้วย 1. งานฟูด แอนด์ โฮเทล เมียนมาร์ (Food & Hotel Myanmar) 2.งานโพรแพ็ค เมียนมาร์ (ProPak Myanmar) 3.งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ, 4. งานคอนสตรักชัน เพาเวอร์ ไมนิง เมียนมาร์ (Construction, Power & Mining Myanmar) โดยมีพื้นการจัดงานรวมกันกว่า 25,500 ตารางเมตร โดยการเปิดตลาดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมในกลุ่ม AEC โดยเฉพาะเมียนมาร์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่สนใจจากนักลงทุนทั่วโลกนั้น เป็นผลดีต่อนักธุรกิจและนักลงทุนจากประเทศไทย เนื่องจากไทยและพม่ามีความใกล้ชิดกันในหลายมิติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้สินค้าและนักลงทุนจากไทยมีโอกาสที่จะเข้าไปเปิดตลาดและดำเนินธุรกิจในเมียนมาร์มากกว่าชาติอื่น
สำหรับนโยบายและทิศทางในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ บีอีเอส ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในกลุ่มออลเวิลด์ เอ็กซิบิชัน อีเวนต์ (An Allworld Exhibitions Event) ผู้จัดงานอีเวนท์ใหญ่ที่สุดของโลกได้มีการวางกลยุทธ์ในการผลักดันให้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์และเป็นศูนย์กลางในการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพและพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมีความสามารถในการพัฒนาไปได้อีกมากหากการเมืองภายในประเทศมีความสงบและเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเชื่อว่าประเทศไทยก็จะกลับมาเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนและน่าจับตามองที่สุดของอาเซียนอย่างแน่นอน
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *