“เพชรชมพู จิวเวลรี่” นับเป็นผู้บุกเบิกตลาดค้าเครื่องประดับเพชรทางออนไลน์จนประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่กล่าวเช่นนี้เพราะด้วยยอดขายกว่า 700 ล้านบาทของทางร้านในปี 2558 ที่ผ่านมา สัดส่วนประมาณ 50% มาจากการขายผ่านออนไลน์
ใครจะเชื่อว่า การซื้อขายเพชรที่มีราคาหลักหมื่น หลักแสนบาท จะสามารถขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ อย่างไม่มีอุปสรรค ที่สำคัญมีการเติบโต และการแข่งขันกันสูงมาก เรียกได้ว่าในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมามีร้านเพชรเครื่องประดับอัญมณีบนโลกออนไลน์เกิดใหม่เป็นหลักร้อยราย เหตุผลจากพฤติกรรมลูกค้าชื่นชอบจะดูและซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น
มนต์ชัย รุ่งเรืองวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท เพชรชมพู จิวเวลรี่ จำกัด เล่าว่า ร้านเพชรชมพู จิวเวลรี่ เปิดกิจการมาได้ 6 ปี ย่างเข้าปีที่ 7 มี 3 สาขา สาขาแรกจังหวัดสมุทรปราการ สาขาที่ 2 ถนนเพชรเกษม 20 และสาขาที่ 3 ย่านเยาวราช ตั้งเป้ายอดขายปี 2559 ไว้จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยทางร้านมีเครื่องประดับกว่า 1,000 รายการให้ลูกค้าได้เลือก ส่วนที่มาของเครื่องประดับเพชรทั้งหมด ทางร้านนำเข้าวัตถุดิบจากเบลเยียม และมีโรงงานประกอบตัวเรือน ซึ่งเป็นรูปแบบดีไซน์ของตนเอง
“เดิมธุรกิจครอบครัวของผมเปิดร้านทองมาก่อน ชื่อ “ห้างเพชร ทอง เยาวราช” อยู่ที่ จังหวัดสมุทรปราการ มานานกว่า 30 ปี ซึ่งผมเองเริ่มเป็นพ่อค้าตั้งแต่เป็นวัยรุ่น อายุ 15 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนครอบครัวไว้วางใจ ยอมให้แยกตัวมาเปิดร้านเพชรดังกล่าว ซึ่งผมนำประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาจากร้านทอง มาผนวกกับแนวคิดในการทำตลาดแบบคนรุ่นใหม่ มาใช้กับการบริหารร้านเพชรชมพู โดยเฉพาะการลงไปบุกตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง จนทุกวันนี้ถือได้ว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จมาจากยอดขายผ่านออนไลน์”
เขาเผยต่อว่า เมื่อช่วง 5 ปีที่แล้วเริ่มหันมาทำตลาดออนไลน์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีร้านเพชรร้านใดให้ความสำคัญต่อการขายผ่านเว็บไซต์มากนัก ทั้งวงการมีเพียง 20-30 รายเท่านั้น แต่พอเวลาเปลี่ยนไป ทุกคนมองเห็นถึงโอกาส และความสำเร็จในการทำตลาดออนไลน์ ทำให้ปัจจุบันมีผู้ค้าเพชร พลอย และอัญมณี เพิ่มขึ้นบนโลกออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 200-300 ราย แสดงให้เห็นว่าคนไทยหันมาให้ความสำคัญต่อช่องทางการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่น และเครื่องประดับ ไม่เว้นแม้แต่เครื่องประดับราคาสูงอย่างเพชร
ในส่วนของลูกค้าออนไลน์ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ลูกค้าทั่วไป และกลุ่มที่ 2 ลูกค้าสนใจต้องการจะซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อเปรียบเทียบรายได้กับการขายสินค้าอื่นๆ แล้ว การขายเพชรให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างน่าพึ่งพอใจ เนื่องจากมูลค่าสูง ทำให้รายได้สูงตามไปด้วย ที่ผ่านมามีคนหันมาขายเพชร และมีรายได้กันเดือนละหลักแสนบาท บางคนยอมทิ้งงานประจำเงินเดือนหลายหมื่นบาทมาเปิดเพจขายเพชรหน้าเว็บไซต์ ซึ่งการเริ่มต้นขายเพชรของพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการขายให้คนรู้จักก่อน หลังจากนั้นค่อยขยายกลุ่มลูกค้าแบบปากต่อปาก อันดับแรกคงต้องสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า เมื่อไว้ใจก็จะมีการสั่งซื้อในครั้งต่อไป
สำหรับส่วนแบ่งผลตอบแทน ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงตั้งแต่ 15-20% ขึ้นอยู่กับการเจรจาในรายละเอียดกับทางบริษัท โดยผู้ขายจะต้องผ่านการฝึกอบรมกับทางบริษัทก่อนลงมือขายจริง พร้อมกันนี้ ทางบริษัทจะมีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำตลอดการขาย โดยทางบริษัทไม่อนุญาตให้ใช้แบรนด์ “เพชรชมพู” เพื่อป้องกันการนำเพชรจากร้านอื่นๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานมาสวมรอย ส่งผลต่อความเสียหายในอนาคต
มนต์ชัยเล่าถึงกลุ่มลูกค้าว่า ที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าของร้านเพชรชมพูจะเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มนักธุรกิจ ราคาจำหน่ายเครื่องประดับของเพชรชมพูจะเริ่มตั้งแต่ 6,000 บาท จนถึง 10 ล้านบาท ซึ่งจุดขายอันโดดเด่นที่ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาตลอด เพราะการออกแบบที่ทางบริษัทมีทีมออกแบบคุณภาพ สามารถสร้างสรรค์สินค้าใหม่ได้ทุกสัปดาห์
ส่วนแผนในอนาคตอันใกล้ คือ การขยายตลาดไปยังประเทศกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพราะจากการเปิดขายผ่านทางออนไลน์ ทำให้ได้ลูกค้าในกลุ่มประเทศเหล่านี้เข้ามาพอสมควร โดยเฉพาะเศรษฐีใหม่จากประเทศลาว กัมพูชา และพม่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งคนเข้าไปศึกษาตลาด ว่าจะกำหนดแนวทางการทำตลาด AEC อย่างไร และในปี 2559 จะเปิดสาขาที่จังหวัดอุดรธานี เหมือนกับเป็นใบเบิกทางไปสู่ AEC เพราะอุดรฯ นับเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน และยังเป็นแหล่งชอปปิ้งของเพื่อนบ้าน อย่างลาว เวียดนาม ด้วย
โทร. 0-2389-2395, 08-5099-0655 www.facebook.com/petchompoo.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *