จากประสบการณ์ด้านการออกแบบและผลิตในบริษัทการ์เมนต์มานานกว่า 20 ปี ผสมผสานกับความชอบในงานแฮนด์เมด และเรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัว นำมาสู่การพัฒนาเสื้อยืดผ้าปักทำมือ แบรนด์ “I’m ART” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร
กิจการในรูปแบบเจ้าของคนเดียวมักมีจุดเริ่มต้นจากความรักหรือชอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วต่อยอดจนกลายเป็นอาชีพหลัก “ศุภวรรณ เฉยสิริ” ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
เธอเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานประจำฝ่ายออกแบบและทำต้นแบบเสื้อผ้าในบริษัทการ์เมนต์แห่งหนึ่งมากว่า 20 ปี ขณะที่ส่วนตัวชื่นชอบงานผ้าปัก มักทำเล่นเป็นงานอดิเรกเสมอ และเริ่มนำมาปักลงเสื้อยืดเพื่อขายเป็นรายได้เสริม ปรากฏว่ามีผู้สนใจซื้ออย่างดี จนตัดสินใจก้าวออกจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาทำเสื้อยืดผ้าปักขายเต็มตัว
“ดิฉันทำงานตามประสาคนออฟฟิศทั่วไปมานาน จนถึงจุดที่อิ่มตัวแล้ว ทำไปพลางก็มีคำถามต่อตัวเองเรื่อยๆ ว่า เราจะมีชีวิตอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือ? สุขภาพจิตมันแย่ลง ประกอบกับการเดินทางไปออฟฟิศของเราก็ไม่ค่อยสะดวก (คุณศุภวรรณ ส่วนขาเป็นโปลิโอ) แต่พอเราเริ่มทำเสื้อผ้าปักเป็นอาชีพเสริม ตลาดมันไปได้ เราเลยไตร่ตรองแล้วเลือกจะลาออกมาทำอาชีพนี้เต็มตัวดีกว่า”
ในส่วนตัวสินค้านั้น คุณศุภวรรณบอกว่า จุดเด่นอยู่ที่การโชว์ฝีมือในการปักผ้าลงบนเสื้อยืดที่ประณีต และยังมีลายสวยงาม น่ารัก และสีสันสดใส นอกจากนั้น ยังมีความหมายตามกระแสแฟชั่นนิยมในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ลายสัตว์ตามปีราศี สัตว์มงคล หรือแม้กระทั่งคำฮิต เป็นต้น ประกอบกับใช้วัตถุดิบคุณภาพดี โดยส่วนเสื้อยืดจะสั่งผลิตขึ้นเอง ใช้วัสดุเป็นผ้าคอตตอน 100% เนื้อนุ่ม ส่วนไหมปักผ้าใช้ “ไหมญี่ปุ่น” แท้ คุณสมบัติเหนียวและไม่เป็นขุย
เบื้องต้นนั้นลงทุนแค่หลักหมื่นบาท ทำเองขายเอง ตระเวนหาช่องทางขายตามตลาดนัด และสถานที่ราชการต่างๆ มีกลุ่มเป้าหมาย คือ คุณแม่บ้านที่มีหน้าที่คอยซื้อหาสินค้าคุณภาพดีให้แก่สมาชิกในครอบครัว อย่างไรก็ตาม ในระยะครึ่งปีแรกก็ยังไม่ดีนัก รายได้น้อยกว่าตอนทำงานประจำเสียอีก แต่ก็ไม่ท้อเพราะไม่ได้ลงทุนมาก คิดเสมอว่าจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนสักพักเมื่อลูกค้าซื้อไปแล้วชื่นชอบ กลับมาซื้อซ้ำ และช่วยบอกต่อ ทำให้มีออเดอร์มากขึ้นตามลำดับ
ด้านการผลิตถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นมุมมองของการเป็นคนที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ โดยเฉพาะแก่ “กลุ่มคนพิการ” ที่ยังรอคอยโอกาสอยู่อีกมาก ด้วยการเข้าไปช่วยสอนอาชีพ แล้วดึงมาเป็นแรงงานทำเสื้อยืดแฮนด์เมด
“พอเราเริ่มมีออเดอร์มากขึ้น ต้องการหาแรงงานมาช่วยทำงาน ดิฉันเลยคิดถึงการสร้างงานให้แก่คนพิการ เพราะดิฉันมองว่าคนพิการสามารถทำงานลักษณะนี้ได้ดี ขนาดตัวเราเองก็เป็นคนพิการยังสามารถทำได้เลย ดิฉันเลยสร้างเครือข่ายอาชีพคนพิการ เริ่มจากไปสอนการทำงานให้แก่เขา จากนั้น เราเป็นฝ่ายจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ แล้วส่งไปให้สมาชิกตามบ้าน โดยให้ค่าจ้างเป็นรายชิ้น ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะมีรายได้แตกต่างกันไป ตามฝีมือและความขยัน” คุณศุภวรรณระบุ
เสื้อยืดผ้าปักแบรนด์ “I’m ART” มี 4 ขนาด คือ S M L และ XL มีทั้งแบบคอกลม และคอวี ใส่ได้ทั้งชายและหญิง ราคาอยู่ที่ตัวละ 250-350 บาท (แล้วแต่แบบและขนาด) แต่ละปีจะมีการออกคอลเลกชันใหม่ 3-4 ครั้ง ทั้งหมดสร้างสรรค์โดยคุณศุภวรรณ ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า หาไอเดียจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว เช่น ดูตามโทรทัศน์ นิตยสาร อินเทอร์เน็ต หรือตามเทรนด์ฮิต เพื่อเก็บมาประยุกต์ทำเป็นลวดลายแบบปัก
ทั้งนี้ แบรนด์ “I’m ART” ออกสู่ตลาดมากว่า 4 ปีแล้ว ปัจจุบันมีแรงงาน 12 คน ส่วนช่องทางตลาด มีทั้งขายปลีก ผ่านตามตลาดนัดต่างๆ สถานที่ราชการ งานแสดงสินค้าประจำปี เช่น โอทอปซิตี้ รวมถึงขายผ่านออนไลน์ นอกจากนั้นยังรับทำขายส่งสำหรับผู้สนใจสั่งไปขายต่อด้วย เฉลี่ยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ที่หลักหมื่นบาทต่อเดือน
แม้ว่าทั้งตัวเจ้าของกิจการ รวมถึงแรงงานทั้งหมดจะเป็นผู้พิการ ทว่ากลับไม่เคยดึงเรื่องความบกพร่องทางร่างกายมาเป็นจุดขายเลย เพราะอยากให้ลูกค้าซื้อโดยความชื่นชอบในตัวสินค้าจริงๆ มากกว่าซื้อเพราะแค่สงสาร
“เวลาดิฉันไปออกขายสินค้า ถ้าไม่เดินจะไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นคนพิการ (หัวเราะ) เพราะดิฉันคิดเสมอว่าต้องทำสินค้าให้ได้ดีทั้งคุณภาพและแบบ ให้ก้าวทันตลาด ปรับดีไซน์เสมอๆ ให้คนซื้อซื้อเพราะอยากได้สินค้าจริงๆ ไม่ใช่ซื้อเพราะแค่สงสาร ซึ่งมันจะไม่เกิดความยั่งยืน แต่ถ้าลูกค้าซื้อเพราะชื่นชอบในตัวสินค้าจะทำให้เขากลับมาเป็นลูกค้าขาประจำของเรา ซึ่งทุกวันนี้มีหลายคนจะตามเก็บแบบใหม่ที่เราออกมาเสมอ” เจ้าของแบรนด์ “I’m ART” เล่าอย่างภูมิใจ
เมื่อถามถึงปัญหา เจ้าตัวยอมรับว่ามีเข้ามาเสมอ ตั้งแต่ยอดขายลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ หรือการคุมคุณภาพให้ได้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะเป็นงานแฮนด์เมด ซึ่งใช้แรงงานคนเป็นหลัก การรักษาคุณภาพยิ่งยากเป็นพิเศษ รวมถึงปัญหาอื่นๆ อย่างการสั่งผ้าแล้วไม่ได้สเปกตามต้องการ ฯลฯ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทุกคนซึ่งประกอบอาชีพนี้หนีไม่พ้นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยการวางแผนรับมือไว้รัดกุม โดยเฉพาะเรื่องเงินที่ไม่ทำอะไรเกินตัว พยายามทำทุกขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเมื่อมีปัญหาใดๆ จะแก้ไปทีละอย่าง และที่สำคัญที่สุด อาชีพนี้ทำด้วยความรัก แม้จะมีปัญหาใดๆ ก็ตามก็ยังมีความสุขที่ได้ทำต่อไป
สนใจอุดหนุนสินค้าติดต่อได้ที่ 08-1446-4934, 08-1802-7943, 0-2156-3370
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *