เฟอร์นิเจอร์ทำจากวัสดุ “หวาย” ของ “บ้านรักษ์หวาย” (Baan Rak Whay) โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างฝีมือการสานหวายลวดลายโบราณสวยงามหายาก กับงานออกแบบสมัยใหม่ ช่วยยกระดับเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมขายได้ในมูลค่าสูง
เจ้าของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์หวายสุดหรู แบรนด์ “บ้านรักษ์หวาย” คือ “วิภานันท์ ภัควัฒน์ธีรกุล” จาก จ.นครราชสีมา ซึ่งมีธุรกิจหลักผลิตอาหารเสริมสำหรับเลี้ยงโค ส่วนเหตุที่มาขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เพราะชื่นชอบในความสวยงาม และมีเสน่ห์จากการสานลาย อีกทั้งมีความแข็งแรงทนทานสูง และที่สำคัญอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์งานเฟอร์นิเจอร์ “หวายแท้” ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา
“ปัจจุบันงานเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหวายแท้ๆ มีน้อยเพราะราคาหวายแท้สูงมาก อีกทั้งช่างที่จะทำงานหวายมีจำนวนน้อยและค่าแรงสูง ทำให้โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์หลายแห่งเลิกผลิตงานหวายแท้ กระทบช่างฝีมือหลายคนต้องตกงาน ดิฉันรู้สึกเสียดาย ไม่อยากให้งานที่มีคุณค่าต้องหายไป เลยคิดทำเฟอร์นิเจอร์หวายแท้ โดยชวนช่างฝีมือเหล่านี้มาเป็นแรงงานผลิต” วิภานันท์เล่าแรงบันดาลใจ
เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทย มีโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโครงการบ้านจัดสรร เปิดอยู่จำนวนมาก การผลิตสินค้ามุ่งหวังตอบความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวดังกล่าว
ทั้งนี้ มีจุดเด่น ผสมผสานระหว่างคุณค่าของงานอนุรักษ์เข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ โดยในด้านงานอนุรักษ์จะโชว์ฝีมือการสานลวดลายต่างๆ จากช่างผู้มากประสบการณ์ ส่วนใหญ่เป็นลายสานโบราณหาได้ยาก ตัวอย่างเช่น “ลายเพชร” ช่างที่สานได้รับวิชาจากเคยทำงานในโรงงานเฟอร์นิเจอร์หวายของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันลายดังกล่าวในเมืองไทยมีช่างคนนี้เท่านั้นที่ทำได้
ส่วนดีไซน์นั้น เธออธิบายว่า นอกจากจะมีทีมช่างออกแบบแล้ว ยังประสานไปยังสถาบันการศึกษาใน จ.นครราชสีมา มาช่วยเหลือให้คำปรึกษาด้านดีไซน์ต่างๆ เน้นให้เป็นสไตล์โมเดิร์น
ขณะที่วัตถุดิบ “หวาย” เนื่องจากในเมืองไทยถือเป็นพืชสงวน ดังนั้น ต้องนำเข้า 100% จากประเทศอินโดนีเซีย เจาะจงเฉพาะหวายแท้ เกรด A ราคาปัจจุบันกว่า 300 บาทต่อกิโลกรัม มีคุณสมบัติเหนียวแข็งแรง แต่ดัดรูปทรงได้ดี นอกจากนั้นยังผ่านกระบวนการอบแห้ง ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับ “มอด” หรือแมลงมากัดกิน เมื่อมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 50 ปี
วิภานันท์เสริมว่า เริ่มต้นธุรกิจ “บ้านรักษ์หวาย” เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2 ล้านบาท การผลิตมีสินค้าหลัก ได้แก่ ชุดรับแขก โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ ของแต่งบ้าน เป็นต้น รวมกันแล้วนับร้อยดีไซน์ ช่องทางขายมีโชว์รูมอยู่ที่ริมถนนมิตรภาพ ต.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เน้นรับผลิตสินค้าตามออเดอร์ของลูกค้ากลุ่มโรงแรม รีสอร์ตต่างๆ ราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นบาทต่อชิ้น เฉลี่ยรายได้ประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน
“เดิมผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ตในปากช่อง เวลาจะหาเฟอร์นิเจอร์ต้องสั่งจากโรงงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันจะมีเฉพาะงานหวายเทียม (ทำจากพลาสติก) ดังนั้น การทำตลาดของเราจะเน้นนำเสนอว่า เราเป็นผู้ประกอบการในท้องถิ่น สามารถผลิตสินค้าได้ยืดหยุ่นตามแต่ความต้องการลูกค้า ทั้งเรื่องดีไซน์ และงานบริการใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังเป็นวัสดุหวายแท้ หาได้ยาก ช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่สถานที่ที่นำไปวางหรือใช้งาน” เจ้าของธุรกิจเสริม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหนึ่งปีหลังที่ผ่านมา ทาง “บ้านรักษ์หวาย” ได้แตกไลน์ผลิตสินค้าจาก “หวายเทียม” ควบคู่ไปด้วย โดย “ธนาพนธ์ ภัควัฒน์ธีรกุล” ทายาทที่มาช่วยสานต่อธุรกิจจากคุณแม่ เผยว่า เนื่องจากราคาหวายแท้สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ราคาขายเฟอร์นิเจอร์หวายแท้ต้องสูงตามไปด้วย กลุ่มลูกค้าผู้ซื้อส่วนใหญ่จึงจำกัดเฉพาะรายใหญ่เท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการรายเล็กๆ ทั่วไป เช่น ร้านกาแฟ หรือรีสอร์ตเล็กๆ ไม่สามารถสู้ราคาได้
ดังนั้น แผนการตลาดของปีหน้า (2559) จะมีการสร้างแบรนด์ใหม่ แยกกันระหว่างสินค้าหวายแท้ เน้นเป็นงานอนุรักษ์ มุ่งตลาดบน โดยผลิตตามออเดอร์ กับอีกแบรนด์ เป็นงานหวายเทียม สามารถผลิตได้ในจำนวนมากๆ นำเสนอลูกค้าตลาดกว้าง และฝ่ายจัดซื้อของบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ รวมถึงหาโอกาสขยายสู่ตลาดส่งออก โดยเฉพาะแถบเพื่อนบ้านอาเซียน
แม้แนวโน้มการเติบโตของเฟอร์นิเจอร์หวายแท้จะยากขึ้น จากปัจจัยต้นทุนสูง และกลุ่มลูกค้าจำกัด ทว่า “บ้านรักษ์หวาย” ยังมุ่งมั่นไม่ให้ภูมิปัญญานี้จางหายไป ควบคู่กับปรับตัว เปิดตลาดใหม่ ส่งให้ธุรกิจยังสามารถก้าวเดินต่อไปได้
โทร. 08-1785-1645, 08-1946-2617 หรือFB:BanRakWai
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *