xs
xsm
sm
md
lg

รมว.อุตฯ คนใหม่เร่งสานต่องานใหญ่ Thailand Industry ตั้งเป้าชมงานไม่ต่ำ 2 แสนคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรมจัดงานใหญ่ “มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี 2558 Thailand Industry Expo 2015 โดยการจัดงานครั้งนี้ได้ระดม SME เข้าร่วมงานกว่า 1,400 ราย และผู้ประกอบการรายใหญ่กว่า 50 ราย บนพื้นที่กว่า 60,000 ตร.ม. การจัดงานครั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติฯ และเป็นเวทีให้แก่ผู้ประกอบการได้เตรียมพร้อมการก้าวเข้าสู่ AEC ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งเป้าคนเข้าชมงานกว่า 2 แสนคน

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการจัดงาน “มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี 2558 Thailand Industry Expo 2015 ว่า เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมเล็งเห็นว่าการจัดงานในลักษณะนี้เป็นประโยชน์ทั้งต่อภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยถือเป็นเวทีสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย ในการแสดงศักยภาพ ความหลากหลายในเรื่องของสินค้าและบริการฝีมือคนไทย โดยงานนี้ถือเป็นการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชนด้วย รวมทั้งยังเป็นเวทีเผยแพร่ความรู้และทักษะในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบธุรกิจ และผู้ที่สนใจสร้างอาชีพในวงกว้างด้วย ทั้งนี้ งานThailand Industry Expo 2015 มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้า พัฒนาด้วยนวัตกรรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-27 กันยายน 2558 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก คือ1. เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะพระผู้ทรงเป็นต้นแบบของการพัฒนาอาชีพและสร้างวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็งบนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 2. เพื่อเป็นเวทีสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรม ในการเตรียมความพร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจและเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจให้แก่ภาคธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและการค้าในเวทีโลก

ประการที่ 3 เพื่อประชาสัมพันธ์ สื่อสารความรู้ สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือในการยกระดับอุตสาหกรรมไทย โดยให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิต อันเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมไทย

ประการที่ 4 เพื่อคืนความสุขให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไทย ในการประชาสัมพันธ์และซื้อขายผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการในราคาพิเศษ

นางอรรชกากล่าวว่า สำหรับจุดเด่นของการจัดงานครั้งนี้คือ 3 พ. ได้แก่ พื้นที่ พันธมิตร และพลัง ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่จะมีการจัดเต็มพื้นที่ 6 หมื่นตารางเมตรของอาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และผนึกกำลังความร่วมมือจากผู้ประกอบการร่วมจัดแสดงผลงาน โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการตั้งเป้าไว้ว่าจะไม่น้อยกว่าปี 2014 คือจะมีผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศมากกว่า 70 หน่วยงาน รวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนหรือโอทอปจากทั่วประเทศประมาณ 1,400 ราย ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการรายใหญ่กว่า 50 รายตอบรับเข้าร่วมงานและร่วมแสดงศักยภาพพร้อมนำสินค้าและบริการมานำเสนอ เช่น 1. สินค้าคุณภาพเพื่อบริโภคจากเบทาโกร ไทยเบฟเวอเรจ มิตรผล ซีพี อายิโนะโมะโต๊ะ และบริษัทบุญรอด 2. บริการด้านการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำ ทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย 3. รถยนต์จากค่ายรถชื่อดัง โตโยต้า ฮอนด้า เชฟโรเลต อีซูซุ มาสด้า นิสสัน มติซูบิชิ ซูซูกิ บีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงผู้ให้บริการด้านการยางคุณภาพอย่างบริดจสโตน ต่างเตรียมโปรใมชันสุดพิเศษมานำเสนอ

นอกจากนี้ยังมี บริษัทอินโดรามาเวนเจอร์ส บ.เอสซีจี ซีเมนต์ บ.เหมืองแร่โปแตชอาเซียน และกลุ่ม ปตท. ร่วมออกงานด้วย อีกทั้งยังมีในส่วนของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยก็เข้าร่วมด้วย และคิดว่าผู้เข้าเยี่ยมชมงานจะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในงาน ได้แก่ กิจกรรมในส่วนนิทรรศการและกิจกรรมในส่วนการประชุมสัมมนา และWorkshop ซึ่งในส่วนนิทรรศการ จะมีการแบ่งพื้นที่เป็นส่วนต่างๆ ประกอบด้วย 1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะพระผู้ทรงเป็นต้นแบบของการพัฒนาอาชีพ และสร้างวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็งบนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 2. นิทรรศการของกระทรวงอุตสาหกรรม 3. นิทรรศการสุดยอดนวัตกรรมไทย 4. ย่านแฟชั่นแบรนด์ไทย เป็นการรวบรวมร้านค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยจาก 6 ย่านแฟชั่นชั้นนำของไทย และ 5. ส่วนนิทรรศการแสดงสินค้าและบริการ
สำหรับในส่วนประชุมสัมมนาและ workshop จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. การสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ กว่า 70 หัวข้อ เช่น Dogital Economy อนาคตอุตสาหกรรมไทย โอกาสของไทยในอุตสาหกรรม Tecmoica Textile ติดปีกอุตสาหกรรมไทยจากภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมอาหารไทย และหัวข้ออื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมีการประชุมวิชาการ 0ID Forum ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้กำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ Challenge for the future ในวันที่ 24 ก.ย. 2558 อาคารอิมแพค ฟอรั่ม ผู้สนใจสามารถติดต่อสมัครเข้าร่วมการสัมมนาทุกหัวข้อ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4284 และ 0-2202-4274

2. กิจกรรมจุดประกายอาชีพ หรือ workshop สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ และผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพ 3. คลินิกอุตสาหกรรมเป็นส่วนบริการที่ปรึกษาทางด้านพัฒนาอุตสาหกรรม โดยจะมีผู้รู้ทั้งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงและนักวิชาการต่างๆ มาประจำเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจด้านต่างๆ เช่น การทำบัญชี-ภาษี มาตรการการค้าสิ่งทอ การเข้าสู่แหล่งเงินทุนสำหรับ SME/CSR-Diw การบริหารทรัพยากรบุคคล และด้านอื่นๆ อีกมากมายตลอดงาน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมอบความบันเทิงแก่ผู้เข้างาน ทั้งการแสดง และมินิคอนเสิร์ตจากนักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาจัดงาน ผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมสัมมนาได้ที่ 0-2202-4284 และ 0-2202-4274

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น