“ยงยุทธ” เผยที่ประชุม คณะกรรมการการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ เห็นชอบนโยบายนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกความสามารถภาคเอกชน และเกษตรกรได้ วิจัยเครื่องบินทะเล เครื่อง - เกราะกันกระสุน จัดทำบัญชีนวัตกรรมไทย ตั้งกองทรัสต์ร่วมทุน ส่งเสริมยานยนต์ 3 ประเภท โยนคมนาคมแก้มติ ครม. ให้ ขสมก. ซื้อเมล์ไฟฟ้าไทย 500 คัน จัดมหกรรม 3 ภูมิภาค
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.10 น. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ครั้งที่ 3/2558 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเห็นชอบนโยบายและมาตรการในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับความสามารถของภาคเอกชน และเกษตรกรไทย โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการต่อแผนที่นำทางการบูรณาการผลงานวิจัยเครื่องบินทะเล และเสื้อเกราะกันกระสุนสู่การใช้งานจริง โดยเน้นการพัฒนาให้ได้มาตรฐานและด้านความปลอดภัย ซึ่งมอบหมายหน่วยจัดทำบัญชีนวัตกรรมไทย เพื่อดันนโยบายส่งเสริมการสร้างตลาดนวัตกรรมในหน่วยงานภาครัฐให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน เพื่อเตรียมพร้อมการบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.....
นายยงยุทธ กล่าวว่า คพน. เห็นชอบในการจัดตั้งกองทรัสต์ร่วมลงทุนเพื่อธุรกิจฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Fund of Fumds) โดยมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปหาภาคเอกชนที่สนใจร่วมลงทุนในกองทุนดังกล่าว ซึ่งกองทุนนี้นอกจากจะช่วยสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีแล้ว ยังช่วยสนับสนุนให้เกิดการเติบโตของธุรกิจเงินร่วมลงทุนไปพร้อมกัน นอกจากนี้ คพน. ยังเห็นชอบแผนที่นำทางการส่งเสริมยานยนต์ 3 ประเภท คือ รถโดยสารไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง และรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและนำร่องตลาด ขสมก. สำหรับรถโดยสาร เพื่อให้ผู้ผลิตรถโดยสารไฟฟ้าที่มีคุณภาพ โดยให้ทยอยส่งมอบให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2560 โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ ขสมก. จัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 3,200 คัน เป็นรถไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทย 500 คัน และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง พิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรและภาษีสรiพสามิตสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศ
อย่างไรก็ตาม คพน. เห็นชอบให้มีการจัดมหกรรมนวัตกรรมไทย 3 ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27 - 30 ส.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 17 - 18 ก.ย. และภาคใต้ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 30 - 31 ต.ค. เพื่อเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และส่งเสริมให้เกิดธุรกิจเทคโนโลยีในภูมิภาคมากขึ้น