xs
xsm
sm
md
lg

“ยงยุทธ” เผยรัฐบาลลุยพัฒนานวัตกรรม คลอด 3 แนวทางกระตุ้นการวิจัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยงยุทธ ยุทธวงศ์ (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ เผยรัฐบาลตั้งอนุกรรมการพัฒนานวัตกรรมดัน โครงงานวิจัยขนาดใหญ่ คลอด 3 แนวทางเร่งด่วนกระตุ้นการวิจัย

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ ครั้งที่ 1/2558 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานว่า ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ผู้นำประเทศให้ความสนใจในเรื่องการวิจัย หวังว่าจะสามารถขับเคลื่อนการวิวัยให้สามารถนำมาใช้ในภาคธุรกิจได้ โดยที่ประชุมเห็นชอบจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการจัดทำข้อเสนอการพัฒนาระบบนวัตกรรมไทย โดยมีตนเป็นประธานเพื่อศึกษาสภาพปัญหาในการวิจัย รวมทำข้อเสนอการพัฒนาระบบนวัตกรรมไทย และการเชื่อมโยงนวัตกรรมต่างๆ ของประเทศเข้าด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ โดยมีเป้าหมายจัดตั้งโครงการวิจัยขนาดใหญ่ที่จะรวบรวมการวิจัยของไทย และประสานกับต่างชาติในการพัฒนาระบบสื่อสารการ ใช้ดาวเทียม การขนส่ง เป็นต้น

ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า นายกฯ เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่จะนำประเทศไปสู่อนาคตและนำประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมของอาเซียน ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแผนการพัฒนาการวิจัยเน้นด่วน 3 แนวทาง ประกอบด้วย 1. จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัทที่ทำการวิจัยนำเงินที่ทำการวิจัยมาลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่านั้น เรื่องดังกล่าวได้มีการปรับปรุงกระบวนการด้านสิทธิประโยชน์ โดยจากการพิจารณารายโครงงานมาเป็นพิจารณารายบริษัทเพื่อง่ายต่อบริษัทเอกชนที่จะเข้าร่วม

2. มีการลดหย่อนภาษีให้นิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ที่นำเงินบริจาคเข้ากองทุนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยมาลดหย่อนภาษี 2 เท่า 3. จัดตั้งคณะทำงานกำหนดความต้องการของภาครัฐให้สามารถจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่ผ่านมาวิจัยและผ่านการรับรองภายในประเทศในราคาเกิน 100,000 บาท โดยผ่านวิธีพิเศษเพื่อกระตุ้นการวิจัยภายในประเทศ

นายยงยุทธกล่าวเสริมว่า รัฐบาลตั้งเป้าว่าภายในปี 2559 จะมีงบประมาณสำหรับการวิจัยอยู่ที่ร้อนละ 1 ของจีดีพี โดยเป็นส่วนของรัฐร้อยละ 30 คิดเป็นเงินประมาณ 39,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นของเอกชน แต่ในขณะนี้งบประมาณสำหรับการวิจัยที่มี อยู่ที่ร้อยละ 0.37 ของจีดีพี เป็นการลงทุนของรัฐร้อยละ 45 คิดเป็นเงิน 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้หวังว่ามาตรการที่ได้มีการสนับสนุนการวิจัยนั้นจะทำให้งบประมาณในการจิวัยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีนักวิจัยประมาณ 50,000 คน และทุกๆ ปีก็มีการสนับสนุนให้เยาวชนได้ศึกษาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยประมาณปีละเกือบ 10,000 คน และจากนี้ต้องพัฒนาให้ประเทศมีนักวิจัยเพิ่มมากขึ้น โดยต้องสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ สำหรับมาตรการทั้งหมดจะเน้นให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐ รวมทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และให้มีการรายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาระบบนวัตกรรมไทยภายใน 1 เดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น