xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” คลอดมาตรการนาโนไฟแนนซ์ คิดดอกร้อยละ 36 ต่อปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง
ก.คลังคลอดมาตรการนาโนไฟแนนซ์ ระบุอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2558

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันจัดทำมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย (สินเชื่อ Nano-Finance) โดยอนุญาตให้มีนิติบุคคลประเภทใหม่ในระบบสถาบันการเงินไทย เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อย และกำหนดแนวทางการประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance ให้มีความเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และแก้ไขปัญหาภาระดอกเบี้ยจากการกู้ยืมนอกระบบที่สูงจนเกินควร ซึ่งสรุปสาระสำคัญกฎหมายที่เกี่ยวข้องและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance ได้ดังนี้

1. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

1.1 ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ) ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2557 เพื่อกำหนดให้การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับเป็นกิจการที่ต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งมอบอำนาจให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อดังกล่าว

1.2 ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดสถาบันการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินอาจคิดได้จากผู้กู้ยืม (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2557 เพื่อกำหนดอัตรารวมสูงสุดของดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมที่ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บรวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี (Effective rate)

1.3 ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส.1/2558 เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ลงวันที่ 22 มกราคม 2558 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับต้องถือปฏิบัติ

2. หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance

2.1 ประเภทสินเชื่อที่จะกำกับดูแล กำหนดนิยามสินเชื่อที่จะกำกับดูแลประเภทใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ” ซึ่งหมายความถึง การให้กู้ยืมเงิน การรับซื้อ ซื้อลดหรือรับช่วงซื้อลดตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด การให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่งแก่บุคคลธรรมดาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพที่ไม่มีทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นหลักประกัน โดยมีกระบวนการให้สินเชื่อที่ยืดหยุ่นสอดคล้องกับคุณลักษณะของกลุ่มลูกหนี้ เช่น ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ เป็นต้น และมีวงเงินรวมสินเชื่อไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อลูกหนี้แต่ละราย

2.2 ผู้กำกับดูแล ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้กำกับดูแลสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ โดยมีหน้าที่ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องถือปฏิบัติ และตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance

2.3 คุณสมบัติผู้ประกอบธุรกิจ เป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนที่มีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท โดยต้องยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย

2.4 ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ โดยที่สินเชื่อ Nano-Finance เป็นสินเชื่อประเภทใหม่ที่มีกระบวนการให้สินเชื่อที่ยืดหยุ่นสอดคล้องกับคุณลักษณะของกลุ่มลูกหนี้ เช่น ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น แต่อยู่ในระดับที่ไม่เป็นภาระมากจนเกินควรต่อผู้บริโภค จึงกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจอาจเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใดๆ จากลูกหนี้รวมกันแล้วคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective rate) ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี

2.5 เงื่อนไขการดำเนินงานอื่นๆ กำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานอื่นๆ ให้ผู้ประกอบธุรกิจถือปฏิบัติ เช่น แนวทางการเรียกให้ชำระหนี้และการติดตามทวงถามหนี้ การปฏิบัติและจัดการเกี่ยวกับข้อมูลผู้บริโภค การปฏิบัติเมื่อมีข้อร้องเรียน เป็นต้น

3. การมีผลบังคับใช้

3.1 ประกาศกระทรวงการคลังทั้งสองฉบับตามข้อ 1.1 และ 1.2 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2558
3.2 ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยตามข้อ 1.3 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2558

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Finance สามารถยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจผ่านธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 24 มกราคม 2558)

4. การสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

4.1 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เบอร์โทรศัพท์ 0-2273-9020 ต่อ 3288
4.2 ธนาคารแห่งประเทศไทย เบอร์โทรศัพท์ 1213

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น