กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งเดินเครื่องยกระดับผู้ประกอบการเครื่องสำอาง โดยดึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวมตัวจัดตั้งคลัสเตอร์เครื่องสำอางในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ชี้การรวมกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางในครั้งนี้จะเป็นการรวมกันของ 3 ภาคีเครือข่าย กลุ่มผู้ประกอบการ ซัปพลายเออร์ และแม่ฟ้าหลวง ซึ่งช่วยผลักดันให้ตลาดเครื่องสำอางทั้งกลุ่มเอสเอ็มอี และโอทอป สามารถเติบโตรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ไทยมีส่วนแบ่งมากกว่าร้อยละ 40
นายกอบชัย สังข์สิทธิ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการที่เครื่องสำอางเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทย ส่งผลให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 ที่ผ่านมาธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมีมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจกว่า 2.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศประมาณ 1.2 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 60 และตลาดส่งออกกว่า 9 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40
สำหรับการเปิด AEC ในครั้งนี้ถือว่าตลาดไทยได้เปรียบประเทศอื่นๆ เพราะไทยเรามีส่วนแบ่งตลาดอาเซียนในส่วนของเครื่องสำอางเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง ร้อยละ 40 ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอางของไทย ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้มีแผนยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยการจัดตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง (Thai Cosmetic Cluster) รองรับการแข่งขันที่รุนแรงจากการเปิดเสรีทางการค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการในกลุ่มเครื่องสำอางในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันประมาณ 762 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางขนาดเล็กจำนวน 520 ราย คิดเป็นร้อยละ 68 และขนาดกลาง 220 ราย คิดเป็นร้อยละ 29 และธุรกิจขนาดใหญ่ 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์เส้นผม ใบหน้า ร่างกาย เครื่องหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น โดยการรวมกลุ่มกันครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ กลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้ประกอบการซัปพลายเออร์เครื่องสำอาง
ทั้งนี้ การก่อตั้งคลัสเตอร์เป็นการสร้างความเข้มแข็งและเสริมศักยภาพให้กลุ่มผู้ประกอบการเครื่องสำอางในประเทศ และเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ทั้งทางด้านวิชาการ และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การค้า และการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคล รวมทั้งการต่อยอดการพัฒนาทางด้านนวัตกรรมให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และผลิตภัณฑ์ใหม่
นายสมประสงค์ พยัคฆพันธ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรม เครื่องสำอางไทย กล่าวถึงการร่วมมือก่อตั้งคลัสเตอร์เครื่องสำอางในครั้งนี้ว่า ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะที่ผ่านมามีปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัตถุดิบจะแบ่งปันกัน และการทำประชาสัมพันธ์ ช่วยประหยัดในการใช้สื่อต่างๆ บางครั้งบริษัทเล็ก โอกาสจะเข้าถึงสื่อก็เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะกลุ่ม OTOP พอมารวมเป็นคลัสเตอร์ เป็นการสร้างโอกาสให้กับโอทอปในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านวิชาการ งานวิจัย ลงทุนจะช่วยเหลือกัน ซึ่งการรวมกลุ่มกันครั้งนี้เริ่มต้นกันที่ 26 บริษัท สำหรับผู้ประกอบการสนใจร่วมเข้ากลุ่มคลัสเตอร์สามารถติดต่อเข้ามาได้ ที่สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โทร. 0-2202-4575, 4581
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *