พาณิชย์เข้ม! ดีเดย์ 5 ม.ค.58 จัดระเบียบจดตั้งนิติบุคคลใหม่ ทุนเกิน 5 ล้าน ต้องส่งหลักฐานเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นและต้องโชว์ใบโอนเงินภายใน 15 วัน หากลงทุนด้วยทรัพย์สินต้องแสดงหลักฐานภายใน 90 วัน ส่วนการเพิ่มทุนต้องมีหลักฐานการจ่ายเงินค่าหุ้นมาแจ้งด้วย เผยหากไม่ยื่นนายทะเบียน มีสิทธิ์เพิกถอนการจดทะเบียนได้
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมฯ เพิ่มความเข้มงวดในการรับจดทะเบียน จัดตั้งและเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทให้มากขึ้น กรมฯ จึงออกคำสั่งที่ 230/2557 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนจัดตั้งและเพิ่มทุนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด
โดยกำหนดให้เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ที่จัดตั้งใหม่และมีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาท) ขึ้นไป ต้องแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือและยืนยันได้ว่ามีการชำระเงินลงทุนตามที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งหรือเพิ่มทุนจริง ซึ่งจะมีผลต่อผู้ยื่นจดทะเบียนตั้งใหม่เพียงประมาณร้อยละ 4 ของผู้ยื่นขอ จดทะเบียนทั้งหมด หรือ 2,500 รายต่อปี (จากธุรกิจที่จดทะเบียนตั้งใหม่ประมาณ 60,000 - 65,000 รายต่อปี) โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2558 เป็นต้นไป
“ในการจดทะเบียนตั้งใหม่ ผู้ขอจดต้องแสดงหลักฐานการรับเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนในวันที่ยื่นจด และต้องแสดงหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งภายใน 15 วัน หากเป็นการลงทุนด้วยทรัพย์สินต้องแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นๆ ภายใน 90 วันนับจากวันจัดตั้ง ส่วนกรณีเพิ่มทุนห้างหุ้นส่วนและบริษัท ต้องแสดงหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นที่ธนาคารออกให้ต่อนายทะเบียนในวันยื่นขอเพิ่มทุนด้วย ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับห้างหุ้นส่วนและบริษัท ที่จัดตั้งให้ได้รับความเชื่อถือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่จะจดจัดตั้งบริษัทใหม่ เพราะธุรกิจตั้งใหม่ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาทเพียงแค่ 4% หรือคิดเป็นเพียงแค่ 2,500 รายของผู้ที่ยื่นขอจดทะเบียนทั้งหมดประมาณ 6-6.5 หมื่นรายต่อปี”
อย่างไรก็ตาม ในการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ กรณีที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด ไม่จัดส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวข้างต้น อาจเป็นเหตุให้นายทะเบียนพิจารณาเพิกถอนการจดทะเบียนได้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *