xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์จัดระเบียบจดทะเบียนทุนนิติบุคคล เน้นความถูกต้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พลเอก ฉัตรชัย  สาริกัลยะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเรียกเอกสารประกอบการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดให้มีความถูกต้องน่าเชื่อถือมากขึ้น เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาทก่อน

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการนำทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้ไปใช้ประโยชน์ในการทำนิติกรรมและประกอบธุรกิจจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานผู้รับจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพิ่มความเข้มงวดในการรับจดทะเบียนจัดตั้งและเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทให้มากขึ้น

โดยให้ปรับปรุงเรื่องการจดทะเบียนจัดตั้งและการเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัท ให้มีการส่งเอกสารประกอบการจดทะเบียนที่น่าเชื่อถือและสามารถยืนยันได้ว่ามีการชำระเงินลงทุนตามที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งหรือจดทะเบียนเพิ่มทุน โดยกำหนดให้ผู้ขอจดต้องแสดงหลักฐานการรับเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนในวันที่ยื่นจด และต้องแสดงหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งภายใน 15 วัน หากเป็นการลงทุนด้วยทรัพย์สินต้องแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นๆ ภายใน 90 วันนับจากวันจัดตั้ง ส่วนกรณีเพิ่มทุนห้างหุ้นส่วนและบริษัทต้องแสดงหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นที่ธนาคารออกให้ต่อนายทะเบียนในวันยื่นขอเพิ่มทุนด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งให้ได้รับความเชื่อถือทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลกับการอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการจดทะเบียน จึงให้คงนโยบายสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ที่ (จ) 205/2557 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนจัดตั้งและเพิ่มทุนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด กำหนดให้เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาท) ขึ้นไป ซึ่งจะมีผลต่อผู้ยื่นจดทะเบียนตั้งใหม่เพียงประมาณร้อยละ 4 ของผู้ยื่นขอจดทะเบียนทั้งหมด หรือ 2,500 รายต่อปี (จากธุรกิจที่จดทะเบียนตั้งใหม่ประมาณ 60,000-65,000 รายต่อปี) โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2558 เป็นต้นไป

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น