หากกล่าวถึง “เทียนหอม” ของไทย มักจะคิดถึงสินค้าจากแหล่งผลิตทางภาคเหนือ แต่ด้วยสมองสองมือของสาวเก่งหัวใจแกร่งอย่าง “ชาลิดา พูลทรัพย์” บุกเบิกหัตถกรรมเทียนหอมที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี ในชื่อ “เดชอุดม” สวยงามโดดเด่นไม่เคยมีมาก่อนในท้องถิ่น จนสร้างชื่อโดดเด่น กลายเป็นอีกสินค้าเด่นประจำแดนอีสาน
ชาลิดา เล่าว่า เป็นชาวเมืองอุบลฯ โดยกำเนิด แต่หลังจบ ปวช. ไปเรียนต่อคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้น ทำงานด้านออกแบบให้แก่บริษัทผลิตสินค้าแฮนด์เมดส่งออกแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ ทำอยู่หลายปี จนเมื่อประมาณ 14 ปีที่แล้ว ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านเกิด
“ดิฉันอยากกลับมาอยู่บ้านเกิด ซึ่งตอนนั้น เราก็ไม่มีอาชีพ เลยหามางานที่สนใจ เกิดแนวคิดที่เห็นว่า จ.อุบลฯ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่อง “เทียนพรรษา” ทว่า กลุ่มผู้ทำจะมีเฉพาะช่างผู้ชาย ส่วนรูปแบบจะเป็นเทียนถวายพระ ขายได้เฉพาะช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้น เราเลยคิดต่อไปว่า อยากจะทำงานเทียนให้เป็นสินค้าที่ขายได้ทั้งปี และมีรูปแบบต่างจากในท้องตลาดทั่วไป เลยคิดถึงงานเทียนหอม ซึ่งเวลาถือเป็นเรื่องใหม่มากใน จ.อุบลฯ ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน” ชาลิดา เล่า
แม้จะเรียนด้านศิลปะโดยตรง ทว่า ไม่เคยมีความรู้เรื่องการทำเทียนหอมมาก่อนเลย ต้องเรียนรู้ใหม่ด้วยตัวเองทั้งหมด อาศัยหาข้อมูลจากหนังสือต่างๆ แล้วใส่ดีไซน์เฉพาะตัวเข้าไป เน้นดีไซน์เลียนแบบธรรมชาติ สีสันสวยงาม และเก็บรายละเอียดได้ดียิ่ง
“เอกลักษณ์เด่นของเรา คือ ความละเอียด เหมือนจริงมากกว่าสินค้าประเภทเดียวกันโดยทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น ใบไม้ของเรา ก็จะมีเส้นลายใบไม้อยู่ด้วย หรือดอกไม้ชนิดต่างๆ ก็จะมีรายละเอียดที่ลึกกว่าทั่วไป ซึ่งการทำงานลักษณะนี้ ค่อนข้างยาก ใช้เวลานาน และต้นทุนสูง” ชาลิดา เผย และเล่าต่อว่า
ด้านการผลิต ช่วงแรก เข้าไปสอนอาชีพแก่แม่บ้านในท้องถิ่นเพื่อใช้เป็นแรงงาน ช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่กลุ่มแม่บ้านช่วงเว้นว่างจากการทำนา เบื้องต้นมีสมาชิกที่มาเป็นแรงงานแค่ 4-5 คน แต่หลังจากมีออเดอร์ต่างประเทศเข้ามามากขึ้น ได้ขยายการผลิต ปัจจุบัน มีพนักงานประจำประมาณ 15 คน และมีเครือข่ายจะมีป้อนงานไป รวมๆ แล้วประมาณ 100 คน
ด้วยความสวยงามโดดเด่นของเทียนหอม “เดชอุดม” ทำให้ได้รับออเดอร์จากต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง นับถึงปัจจุบันกว่า 14 ปีแล้ว ลูกค้ามีทั่วโลกทั้งทวีปยุโรป อเมริกา และเอเชีย ขณะที่ในประเทศมีตัวแทนรับไปขายต่อจากแหล่งท่องเที่วและย่านธุรกิจต่างๆ โดยสินค้าจัดเป็นกลุ่มของขวัญ มอบให้ในกรณีพิเศษ เช่น วันปีใหม่ วันเกิด เป็นต้น นอกจากนั้น ยังสามารถรับทำและออกแบบให้เป็นการเฉพาะเจาะจงเป็นสินค้าชิ้นเดียวได้ด้วย
“เทียนของเรา มันสวยจนลูกค้าซื้อไปแล้วไม่กล้าไปจุด ส่วนใหญ่จะซื้อมอบให้เป็นของขวัญ ของฝาก เพื่อใช้เป็นของประดับตกแต่งบ้าน ซึ่งราคาของเราเมื่อเทียบกับสินค้าจีน สูงกว่าประมาณ 10-20 เท่าเลยทีเดียว กลุ่มลูกค้าที่ซื้อจึงเป็นระดับที่เน้นคุณภาพ ชอบงานศิลปะ ต้องการความสวยงาม และซื้อมอบในวาระพิเศษ” สาวเก่ง เผย
สำหรับเทียนหอมเดชอุดม มีดีไซน์ต่างๆ มากมาย เช่น ดอกไม้ ผลไม้ หิน แฟนซี ฯลฯ รวมกันแล้วหลายพันดีไซน์ ราคามีตั้งแต่หลักหน่วยไปจนหลักร้อย หลักพันบาท จนถึงสูงสุดที่เคยทำ มูลค่าถึง 1.5 ล้านบาท คือ รถแห่เทียนหอมพรรษา ขนาดความยาวถึง 14 เมตร
ชาลิดา อธิบายเสริมว่า จากที่ผลงานได้รับการยอมรับในท้องถิ่น เทียนหอมเดชอุดมจึงได้รับมอบหมายเชิงขอร้องจากหน่วยงานภาครัฐประจำจังหวัดให้ช่วยทำรถแห่เทียนพรรษา เพื่อร่วมโชว์ในงานประจำปี
“ใน จ.อุบล รวมถึงในภาคอีสาน เราเป็นผู้ผลิตเทียนหอมอย่างจริงจังเพียงเจ้าเดียว ทางหน่วยงานรัฐในท้องถิ่น เลยมาขอร้องให้เราทำรถแห่เทียนพรรษาเข้าร่วมประกวดงานประจำปี แม้ดิฉันจะเป็นคนอุบล แต่ยอมรับตามตรงว่า ไม่เคยสนใจจะทำรถแห่เทียนพรรษาเลย แต่เมื่อได้รับมอบหมายมาแล้ว เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งรถแห่เทียนที่ผ่านมาๆ กลุ่มผู้ทำจะเป็นศิลปินที่สืบทอดภูมิปัญญามายาวนาน รูปแบบส่วนใหญ่จึงเน้นสไตล์ดั้งเดิม แต่พอเรามาทำ ก็พลิกรูปแบบให้เป็นสไตล์ของเรา ด้วยการนำเทียนหอมรูปแบบธรรมชาติมาผสมผสานเกิดเป็นสีสันแปลกตา จนเกิดเป็นรถแห่เทียนหอมพรรษารายแรกและรายเดียวของประเทศ”
ผลงานรถแห่เทียนหอมพรรษาของเดชอุดม ขนาดใหญ่อลังการ ความยาวถึง 14 เมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านบาท สามารถคว้ารางวัลอันดับ 3 มาครองได้ 2 ปีรวด คือ การประกวดเมื่อปีที่แล้ว (2556) และปีนี้ (2557) ปัจจุบัน ผลงานยังตั้งแสดงอยู่ที่หน้าสนามบินอุบลราชธานี
อย่างไรก็ตาม ในปีต่อๆ ไป เธอบอกว่า จะไม่มีรถแห่เทียนหอมพรรษาของเดชอุดมเข้าร่วมกิจกรรมอีกแล้ว ด้วยเหตุผลตรงๆ ว่า สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเกินไป
“ทางหน่วยงานที่สนับสนุนให้เราเข้าประกวดจะให้ทุนมา 7 แสนบาท แต่ด้วยความที่ดิฉันเป็นคนเวลาจะทำอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด งบที่ได้มาเลยไม่พอใช้จ่าย ดิฉันก็เลยต้องคว้าเงินส่วนตัวเพิ่ม รวมถึง ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจทั้งหมดเข้าไป ใช้เวลากว่า 2 เดือนเต็มที่ต้องทิ้งงานประจำไปเลย เลยตั้งใจว่า จากไม่ทำอีกแล้ว เพราะทั้งเหนื่อยและสิ้นเปลืองมาก ผลงานที่ผ่านมา เราก็ถือว่าได้ตอบแทนแก่บ้านเกิดแล้ว”
ในตอนท้าย เธอยอมรับว่า ทุกวันนี้พบปัญหาสินค้าถูกเลียนแบบ ทั้งจากผู้ผลิตจีน และผู้ผลิตในประเทศ แล้วขายตัดราคา กระทบถูกแย่งลูกค้าไปไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม แม้จะท้อและเจ็บปวด แต่ก็จะขอสู้ โดยยึดมั่นจะรักษาจุดยืนของตัวเองที่จะทำผลงานให้ออกมาสวยงามที่สุด ไม่เปลี่ยนแปลง
“พูดตรงๆ ว่า ดิฉันไม่รู้สึกว่าเราต้องแข่งขันกับใคร นี่พูดจากใจจริง ไม่ได้สร้างภาพ เพราะเราก็มีออเดอร์มาเรื่อยๆ ตลอด 14 ปี ส่วนหนึ่ง อาจจะเพราะเราไม่ได้เป็นแม่ค้าจริงๆ ที่ให้ความสำคัญเรื่องยอดขายเป็นอันดับแรก แต่สำหรับตัวเอง ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพความสวยงามมาก่อน เพราะเราเชื่อว่า จุดนี้ ทำให้เรายืนอยู่ได้จนถึงวันนี้ เราก็จะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองไปทำของถูกๆ ขายกับเขา เพราะถ้าทำอย่างนั้น เท่ากับเราก็ไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง” สาวหัวใจศิลปะทิ้งท้าย
ติดต่อ โทร.084-524-5946 หรือ www.mutitacandle.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *