xs
xsm
sm
md
lg

“บางแสน” วันนี้มิใช่มีดีแค่ (คืน) พื้นที่หาดทราย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาพความสวยงามทางธรรมชาติของชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี ที่ถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ สื่อทีวี และหนังสือพิมพ์ ในลักษณะปราศจากร่มเตียงที่เคยทอดยาวเต็มเหยียดตลอดแนวชายหาด จนแทบไม่มีอากาศหายใจมานานกว่า 10 ปี เป็นภาพที่สร้างความฮือฮา และก่อให้เกิดคำถามมากมายต่อผู้ที่ได้พบเห็นตลอดเกือบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง คสช. ร่วมกับเทศบาลเมืองแสนสุข และอำเภอเมืองชลบุรี จัดโครงการคืนพื้นที่สาธารณะให้แก่ประชาชน คำถามส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ภาพดังกล่าวว่าเป็นของจริงหรือตกแต่ง เพื่อสร้างกระแสให้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ



กระแสดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความฮือฮา และความดีใจให้แก่ผู้ที่ได้รับรู้เท่านั้น วันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากลงทุนเดินทางมาสัมผัสชายหาดบางแสนโฉมใหม่ เพื่อให้เห็นกับตาว่าภาพแห่งความสวยงามที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง

เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่เคยประกาศกร้าวไม่หวนคืนชายหาดบางแสน จากความไม่ประทับใจทั้งเรื่องความสกปรกของชายหาด น้ำทะเล การเอารัดเอาเปรียบของผู้ประกอบการ และอีกหลากหลายสารพัดปัญหา ที่เมื่อได้ย้อนกลับมาอีกครั้งก็พร้อมใจนำข้อมูลบอกต่อ และแบ่งปันภาพถ่ายจนเกิดกระแสตีกลับด้านการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบางแสนอย่างรวดเร็ว

“ASTVผู้จัดการออนไลน์” ได้ลงสำรวจพื้นที่จริง ซึ่งนอกจากจะพบกับบรรยากาศชายหาดบางแสนที่คืนความสวยงามเป็นอย่างมากแล้ว ยังได้พูดคุยกับ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองแสนสุข ถึงนโยบายการพัฒนาชายหาดบางแสนอย่างยั่งยืน และการเพิ่มจุดขายใหม่ในพื้นที่โดยรอบ

นายณรงค์ชัย บอกว่า แผนคืนพื้นที่หาดทรายบางแสนให้แก่ประชาชนจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการที่รวดเร็ว เพื่อป้องกันการต่อต้านจากกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ และพ่อค้าแม่ค้าที่ยึดพื้นที่ทำกินมานานหลาย 10 ปี หากปล่อยให้ข่าวการคืนพื้นที่ชายหาดแพร่สะพัดออกไปนานจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ผิด

หลังรับนโยบายจากคณะ คสช. และอำเภอเมืองชลบุรี ที่ตกลงเลือกพื้นที่ชายหาดบางแสน เป็นตัวอย่างนำร่องจัดระเบียบชายหาดให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เนื่องจากมีข้อจำกัดเพียงปัญหาร่มเตียงที่แออัดมากเกินไปเท่านั้นแล้ว

คณะทำงานของเทศบาลเมืองแสนสุข ได้เริ่มทำงานอย่างหนักทั้ง การคำณวนพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นเขตปลอดร่ม เตียงจำนวน 25% ของพื้นที่ชายหาดทั้งหมดว่ากินเนื้อที่เท่าใด โดยพบว่าจะต้องใช้เนื้อที่รวมไม่น้อยกว่า 500 เมตร

พร้อมกำหนดแนวทางแรกในการขอคืนพื้นที่จากผู้ประกอบการ ด้วยการเฉือนพื้นที่สัมปทานซึ่งผู้ประกอบการร่มเตียงเคยได้รับ จำนวน 21-23 เมตร ต่อล็อก ให้เหลือเพียง 19 เมตร พร้อมกำหนดจุดปลอดร่มเตียง เป็น 3 ช่วงคือ บริเวณต้นหาดหลังวงเวียนบางแสน บริเวณศาลเจ้าพ่อแสน และจุดสุดท้ายจะกระจายอยู่ในพื้นที่รวม 7-8 จุดตลอดแนวชายหาด และกำหนดให้มีเส้นทางลงหาดในทุกๆ 4 เมตร

หลังจากนั้น จึงเดินหน้าทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์ถึงการจัดทำโครงการต่างๆ แต่ไม่วายเจอข่าวลือด้านลบ และกระแสโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกฯ ว่า ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

“กับข่าวลือที่เกิดขึ้น ทั้งการยึดพื้นที่ชายหาดเพื่อทำให้โรงแรมของตัวเองดูดี หรืออีกหลายๆ เรื่อง เราเองก็หนักแน่นพอที่รู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง และพยายามอธิบายว่า การทำในลักษณะนั้นย่อมเป็นการไม่ฉลาด เพราะสุดท้ายเรื่องที่ทำจะย้อนเข้าหาตัวเอง และไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อโรงแรม เนื่องจากแขกของเราไม่ใช่คนที่จะมาใช้บริการชายหาดเป็นส่วนมาก ก็ขอให้สบายใจว่าที่เราทำตรงนี้ก็เพื่อภาพรวม และการทำงานของเทศบาลฯ ให้ความสำคัญต่อการปกป้องสิทธิประโยชน์ของพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ภายใต้เป้าหมายการเก็บพื้นที่ชายหาดให้เป็นสมบัติของประชาชน และชาวบางแสน”

นายณรงค์ชัย ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นไม่สามารถจัดระเบียบชายหาดบางแสนได้ในช่วงที่ผ่านมาๆ ก็เพราะปัญหาใบอนุญาตที่มีมานาน และเป็นไปอย่างถูกต้อง โดยมีการกำหนดพื้นที่สัมปทานในแต่ละล็อกอย่างชัดเจน แต่เมื่อมีคำสั่ง คสช.ลงมาว่า ชายหาดบางแสนต้องจัดระเบียบ เทศบาลฯ จึงมีความเห็นที่สอดคล้องว่า การอาศัยอำนาจจากส่วนกลางทำงาน จะทำให้สำเร็จง่าย แม้จะไม่เป็นที่ถูกใจของกลุ่มคนคุ้นเคย คนรู้จัก หรือแม้แต่ญาติพี่น้องที่เคยได้รับสัมปทานในลักษณะล็อกพิเศษที่มีมากถึง 30-40% ของผู้ประกอบการทั้งหมดที่ในวันนี้ต้องยกเลิกเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันก็ตาม

โดยช่วงแรกของการจัดระเบียบ ตนต้องงดกิจกรรมการลงพื้นที่ทั้งหมด เพื่อเปิดโอกาสให้ทหารทำงานอย่างเต็มที่ และยังเป็นการลดกระแสการร้องขอจากทั้งกลุ่มคนรู้จัก พ่อค้าแม่ค้าที่คุ้นเคยกันมานาน และเมื่อการจัดระเบียบแล้วเสร็จกระแสต่อต้านก็เริ่มลดน้อยลง เมื่อทุกฝ่ายเห็นว่านอกจากจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าบริเวณชายหาดบางแสนแล้ว ยังได้ผลดีเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพที่เพิ่มขึ้น

“ในเรื่องนี้ผมกล้ายืนยันว่า ชายหาดบางแสนจะไม่กลับไปเป็นอย่างเดิมแน่นอน และเราเองก็ไม่กลัวว่าจะกระทบฐานเสียงซึ่งเกือบ 100% ของพ่อค้าแม่ค้าเป็นคนพื้นที่ เพราะได้พยายามอธิบาย และประชาสัมพันธ์อย่างที่สุดแล้วว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบบ้างในวันนี้ จะส่งผลดีในระยะยาว แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ ความไม่รู้ของผู้ประกอบการที่ว่า เมื่อมีการจัดระเบียบแล้วเขาจะได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งผลก็ปรากฏชัดว่า แม่ค้าสามารถขายของได้เหมือนเดิม ส่วนจะขายได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่กลยุทธของแต่ละเจ้า ซึ่งเทศบาลฯ ก็พยายามอำนวยความสะดวกให้ในทุกด้าน”

ส่วนแผนต่อยอดการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ชายหาดบางแสนนั้น เทศบาลเมืองแสนสุข เตรียมเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์ที่อาจจะมีการนำเก้าอี้สนามมาตั้งบริเวณชายหาดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมทะเล และถ่ายรูป รวมทั้งตัดแต่งต้นมะพร้าวในบางจุดเพื่อให้เกิดร่มเงาแก่นักท่องเที่ยวที่นั่งรับประทานอาหารบริเวณชายหาด ที่สำคัญยังจะนำปลาโลมาลอยน้ำมาตั้งตามจุดต่างๆ เพื่อเพิ่มจุดถ่ายภาพให้แก่นักท่องเที่ยว

“หากประเมินด้วยสายตาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชายหาดบางแสนไม่ใช่มีเฉพาะกลุ่มฉิ่งฉาบทัวร์เหมือนก่อน แต่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวหลากหลายขึ้นจากการพูดต่อๆ กันในโลกสังคมออนไลน์ และการลงภาพถ่ายของผู้ที่ได้เข้ามาสัมผัส เราจะเห็นมีภาพครอบครัวที่พาลูกหลานมานั่งเล่น มานั่งปิกนิก มีการนำเตามานั่งปิ้ง ย่าง ซึ่งเทศบาลฯ จะพยายามรักษาภาพของบางแสนให้คงอยู่ตลอดไป เพราะถือเป็นเรื่องที่ดีต่อทุกฝ่าย”

เทศบาลเมืองแสนสุข ยังมีแนวคิดที่จะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณเขาสามมุก และลานแหลมแท่น หลังสร้างลานอเนกประสงค์แหลมแท่นลานที่ 4 แล้วเสร็จ เพื่อพัฒนาเป็นจุดขายของฝากก่อนเดินทางไปยังเขตอ่างศิลา ที่ขณะนี้เริ่มประสบปัญหาการจราจรที่แออัด และจะพัฒนาพื้นที่ด้านทิศเหนือ และใต้ของชายหาดแหลมแท่น ให้เป็นลานม้าน้ำ หลังกลุ่มเอสซีจี ได้เข้าสร้างสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เพื่อต่อยอดการเป็นถนนคนเดิน และพื้นที่จัดมินิคอนเสิร์ต

ขณะที่ตลอดแนวชายหาดบางแสน จะจัดทำรั้วเล็กๆ เพื่อกั้น และป้องกันไม่ให้กลุ่มเตียงผ้าใบบุกรุกพื้นที่ รวมทั้งป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวนำจักรยานยนต์ และรถกระบะเข้ามาจอด ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยว และประชาชนกังวลว่าโครงการคืนพื้นที่ชายหาดบางแสนจะเป็นเพียงไฟไหม้ฟาง ที่หลัง คสช.คืนอำนาจให้ประชาชนแล้ว จะกลับมาเป็นพื้นที่หากินของกลุ่มผู้ประกอบการเช่นเดิมนั้น

นายณรงค์ชัย ยืนยันว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่เทศบาลฯ ได้ยินมาหนาหู โดยเมื่อดำเนินการคืนพื้นที่ชายหาดให้ประชาชนแล้วเสร็จ เทศบาลเมืองแสนสุข จะออกกฎควบคุม และดูแลใหม่ทั้งหมดเพื่อจัดระเบียบผู้ประกอบการชายหาดที่มี 9 กลุ่ม เกือบ 2 พันกว่าราย ให้ทุกคนทำบันทึกข้อตกลงกับเทศบาลฯ โดยมีนายกเทศมนตรี เป็นผู้มีอำนาจลงนาม เพื่อแก้ไขกฎระเบียบทั้งหมด คล้ายการจัดทำใบอนุญาตซึ่งหากผู้ประกอบการรุกพื้นที่เพิ่มจากข้อตกลง เทศบาลฯ ก็สามารถสั่งพักใบอนุญาต หรือยึดใบอนุญาตคืนได้

ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้า หากมีการขายสินค้าเกินราคาที่กำหนด หรือมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเอง พูดจาไม่สุภาพต่อนักท่องเที่ยว ก็มีบทลงโทษที่ชัดเจน และหลังจากนี้จะขอให้จังหวัดชลบุรีออกเป็นประกาศจังหวัด เพื่อให้อำนาจสูงสุดไม่จบอยู่เพียงที่นายกเทศมนตรีฯ หรือท้องถิ่น แต่อยู่ที่จังหวัดที่จะเข้ามาดำเนินการ

ขณะที่การจัดการขยะบริเวณชายหาด เทศบาลฯ มีการจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาประจำจุดต่างๆ ทั้งหมด และในทุกๆ เช้าตั้งแต่เวลา 05.00 น. จะมีการเก็บขยะตามจุดซึ่งกำหนดให้เป็นจุดปลอดร่ม ปลอดเตียง และจุดต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่วนเวียนมาดูแลตลอดเวลา เช่นเดียวกับการดูแลความปลอดภัยที่ในวันนี้ได้ใช้งบประมาณจำนวนหนึ่งติดตั้งหลอดไฟแอลอีดี สร้างความสว่างตลอดแนวชายหาด รวมทั้งจัดชุดเทศกิจ และร่วมกับตำรวจในพื้นที่จัดชุดออกตรวจยังจุดต่างๆ ตลอดทั้งคืนอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมชายหาดบางแสน โดยเฉพาะฤดูนี้ตั้งแต่ พ.ย.ถึง ก.พ.ปีหน้าเป็นช่วงที่สวยที่สุด เนื่องจากลมมรสุมจะพัดไปทางทิศใต้ ทำให้ชายหาดบางแสนมีคลื่นน้อย ลมไม่แรง ที่สำคัญน้ำทะเลใส ขยะที่เกิดจากปากแม่น้ำต่างๆ บริเวณภาคกลาง และขยะที่เกิดจากการทำประมงจะไม่ไหลเข้ามาที่ชายหาดอีกด้วย

ด้าน น.ส.สุภาวิกาน วิเศษล้ำ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว ให้ความเห็นต่อภาพความสวยงามของชายหาดบางแสนในวันนี้ว่า เป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมานานมาก และที่ผ่านมาไม่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวยังชายหาดบางแสน เนื่องจากความแออัดของร่มเตียง แต่ในวันนี้เมื่อได้เห็นภาพจากสังคมออนไลน์ จึงพาครอบครัวเดินทางมาสัมผัส และนำอาหารมานั่งปิ้งย่าง โดยยืนยันว่า บางแสนในวันนี้ถือเป็นภาพบางแสนโฉมใหม่ ที่จะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้อีกนาน

เช่นเดียวกับ นายประสิทธิ์ ขวัญนอน อาจารย์โรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่นำคณะนักเรียนระดับชั้น ป.1-6 กว่า 300 คน เดินทางมาชมความสวยงามของชายหาดบางแสน ที่เผยว่า ได้เห็นภาพจากโลกสังคมออนไลน์ จึงเชื่อว่าน่าจะสร้างความปลอดภัยให้แก่นักเรียนได้เป็นอย่างดี โดยยืนยันว่า ชายหาดบางแสนในวันนี้มีความสะอาด จึงนำคณะครู อาจารย์ นั่งปูเสื้อ ตำส้มตำกันเอง และรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างการดูแลเด็กๆ ที่กำลังตื่นเต้น และดีใจเมื่อได้สัมผัสน้ำทะเลแรกของชีวิต













กำลังโหลดความคิดเห็น