xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ช่องเอสเอ็มอีสร้างธุรกิจรวย! ต้องเกาะเทรนด์ ‘ผู้หญิง’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เพ็ญทิพย์  พรจะเด็ด   นายก สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (ATSME)
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ATSME แนะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกาะเทรนด์ผู้หญิงสร้างธุรกิจรุ่งในปีหน้า ระบุปัจจุบันสตรีมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อน ศก.ทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่วนธุรกิจสุขภาพ ไอที ท่องเที่ยว และอาหาร เชื่อยังขยายตัวได้ดี ส่วนการเมืองป่วนเป็นปัจจัยเสี่ยงฉุดเอสเอ็มอีขาดความเชื่อมั่น

เพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (ATSME) ซึ่งมีสมาชิกเป็นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 8,000 รายทั่วประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าว SMEs ผู้จัดการออนไลน์ ว่า เทรนด์ธุรกิจที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2557 คือกลุ่มสินค้าที่เกาะกระแสของผู้หญิง เพราะปัจจุบันสตรีมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ ในทางตรง เป็นสินค้าที่ผู้หญิงใช้เองโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง รองเท้า กระเป๋า สถาบันความงาม ฯลฯ นอกจากนั้น ที่น่าสนใจคือทางอ้อม ผู้หญิงจะมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว เช่น กลุ่มอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ

“จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจมาก เวลาครอบครัวจะตัดสินใจซื้อสินค้าใดๆ ส่วนใหญ่สุดท้ายจะจบด้วยความเห็นชอบของผู้หญิงเสมอ นอกจากนั้น ในปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทสูงขึ้นในแทบจะทุกวงการ เห็นได้จากผู้นำหลายประเทศเป็นผู้หญิง รวมถึงรัฐบาลมีนโยบายเพื่อผู้หญิงออกมาจำนวนมาก ดังนั้น ในปี 2557 ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหากเกาะกระแสผู้หญิง โดยมีแผนโปรโมชันจูงใจ ลดแลกสะสมแต้ม ฯลฯ ก็จะทำให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง” นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยกล่าว

นอกจากนั้น ธุรกิจที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในปีหน้า ได้แก่ กลุ่มสุขภาพ โดยเฉพาะจับตลาดผู้สูงอายุ เพราะประเทศไทย และทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ และกลุ่มคนดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง มีความสามารถในการใช้เงิน และมีอัตราการออมและลงทุนสูงถึง 25% ของรายได้

ตามด้วยธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมโยงหลายธุรกิจต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รถรับจ้าง ร้านเช่า บริษัททัวร์ ฯลฯ ซึ่งประเทศไทยมีเอสเอ็มอีในธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจำนวนมาก และคาดว่ายังสามารถเติบโตไปได้ เพราะประเทศไทยมีความพร้อมเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน รวมถึงประเทศไทยยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวของทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติ ซึ่งดูได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยขยายตัวทุกปี อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวระดับเอสเอ็มอีควรปรับเทรนด์อิงกระแสสีเขียวหรืออนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ อีกทั้งยังมีกฎหมายใหม่ๆ ออกมาบังคับให้ธุรกิจต้องใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

กลุ่มต่อมาคือ ธุรกิจเกี่ยวกับดิจิตอล และธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร ความแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตที่ส่งผลให้เกิดการขยายตลาดของ “สมาร์ทโฟน” และ “แท็บเล็ต” รวมถึง อุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย และที่สำคัญ ปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับดิจิตอล ผู้ใช้บริการไม่ได้จำกัดอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่อีกต่อไปแล้ว แต่ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่เคยสนใจเกี่ยวกับสินค้าไอทีต่างๆ ก็ยังนิยมมาใช้สินค้าหรือบริการดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ

และกลุ่มสุดท้ายที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในปี 2557 คือ กลุ่มอาหาร และเกษตรแปรรูป ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งวัตถุดิบ และมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นสินค้าที่จำเป็น แม้ว่าอัตราการขยายจะไม่สูงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่คาดว่ายังสามารถรักษาระดับเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีต่อไป

เพ็ญทิพย์กล่าวต่อว่า สำหรับความเสี่ยงของเอสเอ็มอีนั้น ในมุมของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งถือเป็นภาคเอกชนตัวจริงเสียงจริง กังวลปัญหาการเมืองที่ยังหาข้อสรุปลงตัวไม่ได้ ซึ่งจะทำให้การลงทุนพื้นฐานต่างๆ สะดุดลงไป และผลทางอ้อมคือ ผลทางด้านสภาพจิตใจ ทำให้ผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน ในขณะที่ผู้บริโภคเกิดการชะลอการใช้เงินหรือลดการจับจ่าย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น