เมื่อมีของดีอยู่ใกล้ตัว ครั้นจะไม่หยิบฉวยไว้ก็คงน่าเสียดาย โดยเฉพาะสูตรขนมจีนน้ำยาอันเลื่องชื่อของชุมชน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ที่ทั้งหมู่บ้านมีสูตรของตนเอง แต่รับประกันความเข้มข้นของเนื้อปลา และรสชาติไม่เป็นรองใคร ทำให้หนุ่มออฟฟิศลูกหลานคนในชุมชน มุมานะเรียนรู้สูตรพัฒนาให้ถูกปากคนกรุง เปิดร้าน “ขนมจีนน้ำยาปลาล้นหม้อ” ย่านงามวงศ์วาน ชูจุดขายความข้นเนื้อปลา หอมกลมกล่อมกะทิแท้ไม่ผสมน้ำ
นับเป็นโอกาสของคนกรุงที่จะได้ลิ้มลองขนมจีนน้ำยา จากปลายี่สก จ.อ่างทอง รับประกันความความเข้มข้นของเนื้อปลาที่ยังเห็นเป็นชิ้นเมื่อรับประทาน ไม่เปื่อยยุ่ยละลายไปกับน้ำกะทิ “ขนมจีนน้ำยาปลาล้นหม้อ” ของปัญจพร อินทะประสงค์ (อ้อม), คมสัน ศรีวนิชย์ และ รัชกฤต ภูชัชอนิชกุล (ที) 3 หุ้นส่วนคนสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนี้ ที่แม้จะเปิดร้านในย่านงามวงศ์วานมาได้ไม่ถึง 2 เดือน แต่เตรียมนำขึ้นห้างเดอะมอลล์ ขายบริเวณฟูดคอร์ต
แต่ความโชคดีดังกล่าวไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากฝีมือล้วนๆ เพราะก่อนที่จะมาเป็นร้านขนมจีนน้ำยาปลาล้นหม้อ ทั้ง 3 คนได้ลองตลาดมาหลายเดือนแล้ว จากการเป็นผู้ผลิตขนมน้ำยาส่งขายตามงานเลี้ยงต่างๆ ทั้งองค์กรภาครัฐ และเอกชน ที่ล้วนมั่นใจในฝีมือ มีการสั่งไปจัดเลี้ยงอย่างต่อเนื่องทำให้มั่นใจในรสชาติ
“ส่วนหนึ่งที่ทำให้ขนมจีนน้ำยาของเรา รสชาติเป็นที่ติดอกติดใจแก่ลูกค้าน่าจะเป็นที่ความเข้มข้นของเนื้อปลา และน้ำกะทิสด ที่เราสั่งทำสดใหม่ทุกวัน เราเชื่อว่าในกรุงเทพฯ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าน้อยรายนักที่จะใช้เนื้อปลาจำนวนมากเพื่อความเข้มข้น เนื่องจากต้นทุนค่อนข้างสูง โดยสูตรที่เราใช้นั้นมาจาก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ที่ชาวบ้านจะทำขนมจีนน้ำยากันทั้งหมู่บ้าน และมีชื่อเสียง ในเรื่องรสชาติความเข้มข้นของเนื้อปลาแม่น้ำ เราจะไปเรียนรู้สูตรจากครอบครัวคุณคมสัน ที่มีโรงงานทำขนมจีน และน้ำยา แบบขายส่งอยู่แล้ว จากนั้นนำมาปรับปรุงสูตรนิดหน่อยเพื่อให้ถูกปากคนกรุง สุดท้ายก็มาลงตัวที่รสชาติอย่างในปัจจุบัน”
หลังมั่นใจในรสชาติ พวกเขาตัดสินใจเปิดร้าน “ขนมจีนน้ำยาปลาล้นหม้อ” ใกล้กับเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน หวังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและใช้เป็นหน้าร้านเพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต โดยจุดเด่นของน้ำยา คือ ความเข้มข้น ที่ “ลูกค้าจะตักเจอเนื้อปลาทุกคำ จนหมดจาน” โดยการเลือกใช้ปลายี่สก มีข้อดีเมื่ออยู่ในน้ำต้มเดือดเนื้อปลาจะไม่ยุ่ยง่าย ทำให้ลูกค้าได้รับประทานเนื้อปลาที่ยังเป็นชิ้น ส่วนกะทิจะใช้สดใหม่ทุกวันไม่ค้างคืน เพราะคุณอ้อม และคุณคมสัน จะตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปซื้อกะทิที่ตลาดนำมาทำน้ำยาส่งตามออเดอร์ และส่งร้าน ที่คุณทีเป็นผู้ดูแลด้านการตลาดและหน้าร้าน
เมื่อเห็นคุณภาพวัตถุดิบที่ทั้ง 3 คนตั้งใจสรรหา และใส่ใจคุณภาพเป็นอย่างดีแล้ว ในเรื่องราคาก็คุ้มค่าไม่แพงเกินไปในราคาเพียงจานละ 35 บาทเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนสามารถรับประทานได้ ส่วนใครที่ต้องการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก พวกเขาก็ขายในราคากิโลกรัมละ 120 บาท นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูประเภทข้าวที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน อย่าง “ข้าวคลุกน้ำพริกเกลือ” เมนูอาหารโบราณแถบจังหวัดภาคตะวันออก รสชาติเผ็ดเปรี้ยว รับประทานคู่กับเครื่องเคียงปลากรอบ กับไข่ต้ม และในอนาคตจะเพิ่มเมนูแกงเขียวหวาน น้ำยาป่า เพิ่มความหลากหลาย
ถือว่าร้านน้ำยาปลาล้นหม้อธุรกิจโตเร็วเกินคาด หลังได้รับการตอบรับจากลูกค้า ที่บางรายมารับประทานทุกวัน ทำให้ทีมงานมองถึงการนำร้านเข้าไปขายในห้างเดอะมอลล์ ในรูปแบบของคีออสก์เล็กๆ ให้ผู้คนซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านได้สะดวกขึ้น รวมถึงต้องการขยายสาขาไปตามแหล่งออฟฟิศที่ถือเป็นลูกค้าเป้าหมายหลักที่ชื่นชอบและรู้จักผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี และคาดว่านอนาคตจะทำเป็นแพคเกจขึ้นห้าง จัดขายขนมจีนเป็นชุด แต่ต้องศึกษาในเรื่องการถนอมอาหารให้เก็บไว้ได้นานที่สุดโดยปราศจากสารกันบูดกันเสียใดๆ ส่วนการทำตลาดในปีหน้าทีมงานทั้ง 3 คนจะใช้กลยุทธ์เชิงรุกบุกไปหาลูกค้า เพื่อเพิ่มยอดขายในส่วนของการจัดเลี้ยง สังสรรค์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ งานทำบุญต่างๆ หรืองานขึ้นบ้านใหม่
***สนใจติดต่อ 08-4629-4649***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *