ปัจจุบันหลายๆธุรกิจทั่วโลก ได้หันมาใช้ Social Media กับธุรกิจมากขึ้น รวมถึงในประเทศไทย ก็เริ่มมีหลายๆ ธุรกิจหันมาใช้กันมากขึ้นเช่นกัน โดยเป็นการใช้ผ่าน Social Media ดังๆหลายๆอย่างเช่น Facebook, Twitter, Youtube, Instagram เป็นต้น
ซึ่งผมเห็นว่าหลายๆแห่งใช้แล้วได้ผลจริงๆ แต่บางแห่งก็นำไปใช้แบบผิดๆ ใช้ตามกระแสมากกว่า และไม่ได้ผลลัพธ์ออกมาดีเท่าที่ควร ซึ่งการจะวัดผลว่า Social Media มันเวิร์คและทำให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้านั้น มันมีวิธี วันนี้ผมจะมาแนะนำครับ
การวัดผลสื่อ Social Media
ก่อนจะวัดผล คุณเองก็ต้องตั้งเป้าหมาย (Goal) ของการใช้สื่อ Social Media กับธุรกิจของคุณก่อนว่า คุณต้องการผลลัพธ์อะไร และมันจะทำให้เกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจของคุณ ซึ่งผมต้องบอกว่า Social Media มันคือ ช่องที่ทำให้คุณสามารถเข้าถึงคนทั่วโลกนับพัน ล้านคน และคนไทยอีก 18 ล้านคน
ดังนั้น มันสามารถใช้เป็นช่องทางการโปรโมทและทำให้คนรู้จัก (Awareness) ธุรกิจของคุณ ใช้เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสาร (Communication) กับลูกค้าที่เร็ว ฟรี สะดวก ใช้เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ หรือการทำให้ลูกค้าเกิดความผูกพัน (Engagement) กับธุรกิจหรือสินค้าของคุณได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องกลับมาที่องค์กรของคุณ มีกลยุทธ์ (Strategy) ในการนำสื่อ Social Media มาใช้หรือไม่? หากยังไม่มีรีบวางซะ
ระบุเป้าหมายและวิธีการวัดผล (Key Metrics)
จุดเด่นของการใช้ Social Media หรือสื่อออนไลน์ในการทำการตลาด คือ มันสามารถวัดผลได้แม่นยำ แต่เราเองก็ต้องระบุว่าเป้าหมายของการวัดผล มีหน่วย (Metrics)ในการวัดเป็นอย่างไร เช่น กลุ่มเป้าหมาย (Right Target) วัดได้จากช่วงอายุ (Age) เพศ (Gender) สถานที่อยู่ (Location) ของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามารับรู้ และสื่อสารผ่านช่องทาง Social Media ซึ่งสามารถวัดผลได้แม่นยำมาก
การรับรู้และความนิยม (Awareness) วัดได้จาก จำนวนคนกดไลค์ (Like),คนมาติ-ชม (Comment),คนติดตาม (Follower),จำนวนครั้งที่คนเอาข้อความเราไปบอกต่อ (Share, ReTweet),คนดู (Viewer),จำนวนการคลิก (CTR),
อารมณ์ของคน (Sentiment) เราสามารถวัดอารมณ์ของคนที่พูดถึงสินค้า บริการหรือบริษัทของคุณได้ ว่าเค้าด่า ไม่พอใจ ชม รัก หลงสินค้าของคุณแค่ไหนในโลกออนไลน์และ Social Media
คนที่มีอิทธิพลต่อแบรนด์ของคุณ (Influencer)
เราสามารถทราบได้ว่า ใคร คือ คนที่มีอิทธิพลต่อลูกค้าของคุณในการซื้อ หรือพูดถึงสินค้าของคุณได้
ยอดขาย (Sale) วัดได้จากอัตราการเปลี่ยนผู้ชมเปลี่ยนเป็นผู้ซื้อ (Conversion),จำนวนการสั่งซื้อ (Order)
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงบางส่วนของหน่วยและวิธีการวัดผลของสื่อออนไลน์ และ Social Media ซึ่งต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดว่าคุณต้องการเท่าไร โดยสามารถระบุตัวเลขลงไปได้เลย
แต่หากไม่รู้ว่าจะกำหนดเท่าไรดี ลองไปดูค่ามาตรฐานของคู่แข่งหรือธุรกิจอื่นๆในเว็บ www.ZocialRank.com เว็บจัดอันดับ Social Media ได้
เครื่องมือในการวัดผล (Tools)
การวัดผลที่ดี คุณต้องรู้จักใช้เครื่องมือที่ใช้วัดผลในสื่อ Social Media ก่อนว่ามีอะไรบ้าง โดยตอนนี้มีเครื่องมือหลายๆตัวที่สามารถนำมาใช้ได้
Facebook insight : เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทาง Facebook มีให้อยู่แล้ว สามารถดูข้อมูลได้ลึกระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ZocialRank.com : จัดอันดับ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูล Social Media ในหลายๆช่องทางเช่น Facebook, Twitter, Youtube,Instagram,Foursquare ทั้งของคุณและคู่แข่งได้ในเชิงลึก
Google Trends : คุณสามารถวัดผลว่าคนค้นหาอะไรมากที่สุดใน Google โดยสามารถเปรียบเทียบระหว่าง คีย์เวิรด์ กับ คีย์เวิรด์อื่นๆได้ เช่น เทียบ ชื่อสินค้าคุณกับของคู่แข่ง
Twitter Search : ตรวจสอบข้อมูลว่ามีคนพูดถึงคุณใน Twitter มากน้อยแค่ไหน
ZocialEye.com : ระบบเก็บข้อมูลและติดตามว่ามีคนพูดถึง สินค้า แบรนด์ บริษัทหรือผู้บริหารของคุณ ว่ามีคนพูดถึงเท่าไรในแต่ละวัน เค้าด่า เค้าชม เค้าพูดถึงอย่างไรบ้าง และสามารถวัดได้ว่า ใครคือคนที่มีอิทธิพลต่อสินค้าหรือบริการของคุณในโลกออนไลน์ผ่านหลายๆ Social Media รวมถึงยังสามารถทำ Research หรือ แบบสำรวจกลับไปยังกลุ่มคนในโลกออนไลน์ได้อีกด้วย
นี่เป็นเพียงบางส่วนของเครื่องมือในการวัดผล ซึ่งปัจจุบันยังมีเครื่องมืออีกมากมายหลากหลาย ที่คุณสามารถนำมาใช้วัดผล ว่าธุรกิจ สินค้าหรือแบรนด์ของคุณถูกพูดถึง และสามารถเข้าถึงคนได้มากน้อยขนาดไหน และเครื่องมือแต่ละตัวก็จะมีความสามารถในการวัดผลที่แตกต่างกัน
จากทั้งหมดที่ผมได้เล่าไป ผมมั่นใจว่า หากคุณสามรถกำหนดเป้าหมายได้ชัด และมีเครื่องมือที่ดีในการวัดผล มันจะทำให้คุณสามารถวัดผลออกมาได้ชัดเจนว่า Social Media มีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณมากแค่ไหน มันสามารถใช้ในการตลาดเชิงรับและเชิงรุกได้ และเป็นเครื่องมือและช่องทางทีมีศักยภาพมาก รวมถึงราคาของมันถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับผลรับที่ได้ออกมา
แต่ทั้งหมดนี้ “ถ้าคุณใช้มันเป็น” และถ้าใช้ไม่เป็น ก็ลองเริ่มวางแผนในการใช้สื่อนี้อย่างจริงๆจังๆ หรือจะหาทีมงานที่ใช้เป็นและเชี่ยวชาญ มาเป็นผู้ช่วยคุณแทนก็ได้ ผมว่าคุณคงต้องเริ่มแล้วล่ะครับ เพราะคู่แข่งคุณคงเริ่มไปแล้วล่ะ
*** ขอขอบคุณ ข้อมูลโดย นิตยสาร SMEs PLUS***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *