สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทยชี้ยี่ปั๊วกำลังเดือดร้อนหนัก หลังผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ 20 บริษัทยุบศูนย์กระจายสินค้าเหลือเพียงพื้นที่ละ 1 แห่งเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง หวั่นยี่ปั๊วหายหมื่นราย ภายใน 2 ปี
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ในขณะนี้ร้านค้ายี่ปั๊วทั่วประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคและผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ประมาณ 20 บริษัทปรับระบบกระจายสินค้าใหม่ โดยจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในแต่ละพื้นที่เพียง 1 ราย เพื่อทำหน้าที่กระจายสินค้าให้แก่ซาปั๊วต่อไป จากเดิมในแต่ละพื้นที่หรือแต่ละจังหวัดจะมียี่ปั๊วจำนวน 40-50 ราย เนื่องจากต้องการลดต้นทุนขนส่งและลดโปรโมชัน ทำให้ยี่ปั๊วไม่มีสินค้าจำหน่ายเหมือนเดิม เชื่อว่าในอนาคตคาดว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะใช้วิธีตั้งตัวแทนกระจายสินค้ารายใหญ่ในแต่ละพื้นที่เพียง 1 รายแทนมากขึ้น จึงมีโอกาสให้ยี่ปั๊วที่มีจำนวน 10,000 รายทั่วประเทศหายไปจากประเทศไทยภายใน 2 ปีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ขณะเดียวกัน ยี่ปั๊วยังได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคและเครื่องดื่มรายใหญ่กำหนดให้ร้านยี่ปั๊วต้องซื้อสินค้าในเครือเท่านั้น ให้ซื้อพ่วงสินค้าบางรายการด้วย รวมทั้งห้ามซื้อสินค้าของคู่แข่ง ทำให้ผู้ผลิตบางราย รวมถึงเอสเอ็มอีที่มีขนาดเล็กไม่สามารถแข่งขันและหาช่องทางขายสินค้าในตลาดได้ เพราะถูกบีบจากผู้ผลิตรายใหญ่
“ในขณะนี้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ปรับระบบกระจายสินค้าใหม่ทั้งหมด ให้มีตัวแทนในแต่ละพื้นที่เพียง 1 รายเท่านั้น เพราะผู้ผลิตรายใหญ่ต้องการลดต้นทุนให้มีตัวแทนกระจายแค่ 1 แห่ง หรือใช้วิธีตั้งยี่ปั๊วในแต่ละพื้นที่มาทำหน้าที่กระจายสินค้าให้บริษัทแทน ทำให้ยี่ปั๊วที่มีอยู่ในปัจจุบันต้องปรับบทบาทมาเป็นซาปั๊วแทน และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นในอนาคต ยี่ปั๊วอาจจะต้องหายไปจากประเทศไทยแน่นอน”
ทั้งนี้ จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในหลายด้าน ทำให้สมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทยได้มีแผนร่วมมือกับสมาชิกจัดตั้งเป็นสหกรณ์ของยี่ปั๊วขึ้นมาทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับผู้ผลิตสินค้าให้มากระจายสินค้าผ่านยี่ปั๊วเหมือนเดิม เนื่องจากรูปแบบผ่านสมาคมฯ จะถูกกฎหมายกำหนดไม่ให้เจรจาต่อรองเรื่องใดได้ทั้งสิ้น คาดว่าจะเปิดตัวสหกรณ์ได้ในปี 56 ซึ่งจะทำให้ยี่ปั๊วสามารถเข้าถึงสินค้าจากผู้ผลิต และซัปพลายเออร์ได้เพิ่มขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตเอสเอ็มอีเข้ามากระจายผ่านสหกรณ์ได้ด้วย รวมทั้งจะทำให้ผู้ประกอบการร้านค้ายี่ปั๊วและซาปั๊วของไทยอยู่รอดได้ต่อไปในภาวะที่การแข่งขันในตลาดรุนแรงมาก ทั้งนี้ ในปัจจุบันซาปั๊วในประเทศไทยมีมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับภาพรวมยอดการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในช่วงปลายปีนี้มีความคึกคักอย่างมาก โดยร้านค้ายี่ปั๊วได้เพิ่มการสต๊อกสินค้าในกลุ่มขนม กาแฟ คุกกี้ เครื่องสำอาง และกระเช้าปีใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรับมือกับกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปีนี้ที่คึกคักอย่างมาก โดยคาดว่าภาพรวมตลาดค้าปลีกในปีนี้จะเติบโต 10%