"ข้าวหมากเย็น" ปรับสูตรอนุรักษ์อาหารพื้นบ้าน

ข้าวหมาก อาหารพื้นบ้านที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย ปัจจุบันความนิยมในอาหารพื้นบ้านชนิดนี้ได้ลดน้อยลงมาก เพราะด้วยรสชาติ ที่บางครั้งอาจจะรับประทานยากไปเสียหน่อย เพราะมีกลิ่นแอลกฮอล์ จึงไม่ได้รับความนิยมในกลุ่มของคนรุ่นใหม่

ด้วยเหตุนี้เอง "นายศรายุทธ บัวกุล" จึงได้นำข้าวหมากมาปรับใหม่ออกมาเป็น “ข้าวหมากเย็น” ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายกับไอศกรีม ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการกินไอศกรีม สามารถรับประทานข้าวหมากเย็นได้ รวมถึงรสชาติที่ได้ปรับให้มีรสชาติของแอลกอฮอล์น้อยมาก เพราะใช้เวลาหมักข้าวหมากเพียง 3 วัน เท่านั้น และนำเข้าห้องเย็นแช่แข็ง หยุดการเจริญเติบโตของยีสต์ที่ทำให้เกิดแอลกอฮล์ ก่อนออกมาเป็นข้าวหมากเย็น แบบไร้กลิ่นแอลกอฮอล์

นายศรายุทธ เล่าว่า ข้าวหมากเย็น เกิดจากการนำอาหารภูมิปัญญาชาวบ้านที่กำลังจะเลื่อนหายไป นำมาปรับใหม่ให้ทันสมัย ในถ้วยคล้ายไอศกรีม เพื่อให้ข้าวหมากเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ อีกทั้ง ยังได้เพิ่มรสชาติ โดยการเติมผลไม้สด จาก สตอเบอรี่ และผลไม้ตระกูลบลูเบอรี่ รวมถึงนมสด เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้มากขึ้น ทำให้ได้รสชาติข้าวหมากในอีกแบบหนึ่ง เชื่อว่า จะโดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ และวัยรุ่น ให้หันมารับประทานข้าวหมาก อาหารพื้นบ้าน ที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย

"ที่ผ่านมา ผมได้รับการบอกกล่าวจากลูกค้า ถึงคุณประโยขน์ต่างของข้าวหมาก รวมถึงการศึกษาค้นคว้า เรื่องราวและประโยชน์ของข้าวหมาก และนายแพทย์หลายท่านแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของลำไส้ และทางเดินอาหารรับประทาน ข้าวหมาก เพราะในข้าวหมากมีเชื่อจุลลินทรีย์ ที่ดีต่อร่างกาย เมื่อมีจุลลินทรีย์ดีเข้าไปอยู่ในร่างกายมาก ก็จะเข้าไปแทนที่จุลลินทรีย์ไม่ดี แต่ด้วยความที่ข้าวหมากหากินยาก และประกอบกับรสชาติที่อาจจะทำให้กินยากจึงมีคนกินข้าวหมากตามคำแนะนำของหมอน้อยมาก ซึ่งข้าวหมากเย็นเป็นทางเลือกช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ได้"

นอกจากนี้ การผลิตข้าวหมากเย็น ครั้งนี้ ได้รับรางวัลชมเชยในการประกวดนวัตกรรมข้าวไทย ในปี 2554 และจากการได้รับรางวัลดังกล่าว ทางสำนักงานส่งเสริมนวัตกรรม สนช.ได้เข้ามาช่วยในเรื่องการพัฒนา สูตรข้าวหมากเย็น ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดย ล่าสุดแนะนำในเรื่องของการเลือกใช้ข้าวเหนียว จากแหล่งผลิตที่เป็นออร์แกนิค เพื่อให้ได้ข้าวหมากที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมไปถึงกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการกินข้าวหมากตามคำแนะนำของแพทย์

สำหรับช่องทางการขาย เนื่องจากเราเป็นสินค้าใหม่และเพิ่งมาทำตลาด ดังนั้น การเข้าไปวางขายตามร้านทั่วๆไป จึงทำได้ยาก เพราะต้องอาศัยพนักงานขายช่วยแนะนำสินค้า ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องของช่องทางการขายที่แน่นอนในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เราได้วางสินค้าไว้ในกลุ่มของคนรักษ์สุขภาพ ดังนั้นมองไปที่ร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า เพราะเป็นแหล่งชอปปิ้งของคนรุ่นใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ข้าวหมากเย็น ได้เริ่มผลิตและนำมาจำหน่ายได้ประมาณ 4-5 เดือน ก่อนหน้านี้ เริ่มทดลองขายในย่านตลาดเก่าโบราณ แต่มีปัญหาเพราะคนซื้อมองว่า เป็นสินค้าสมัยใหม่ ใส่ในถ้วย ไม่ใช่ข้าวหมากแบบโบราณ ที่ใส่ในใบตอง จึงไม่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนเดินในย่านนั้น เท่าไหร่ ประกอบกับ เจ้าของตลาดเห็นว่าสินค้าของเราไม่เข้ากับคอนเซ็ปต์ของตลาด เราจึงได้ถอนตัวออกมา

นายศรายุทธ เล่าว่า สูตรข้าวหมากเย็นที่ได้มาจากคุณยาย จึงได้นำมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ ว่า ข้าวหมากเย็น "ยายอิ" เป็นสูตรข้าวหมากดั้งเดิม ไม่ได้ปรับอะไร จะปรับแค่เพียงเติมผลไม้ และนม เพิ่มเข้าไป เพื่อให้รสชาติถุกกับกลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้ ที่สำคัญก็ยังได้คุณประโยชน์ของข้าวหมากอยู่ คนที่ชื่นชอบข้าวหมากแบบดั้งเดิมก็คงจะไม่เลือกรับประทานของเรา แต่คนที่ต้องการกินข้าวหมาก แต่ไม่ชอบกลิ่น หรือรสชาติข้าวหมากแบบดั้งเดิม เราก็จะเป็นทางเลือกหนึ่ง และเป็นการอนุรักษ์ อาหารพื้นบ้านดั้งเดิมที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายให้ยังคงอยู่คู่กับคนไทย

ส่วนราคาขายข้าวหมากเย็น ปัจจุบันขายราคาถ้วยละ 25 บาท โดยน้ำหนักสุทธิ 90 กรัม ใส่ในถ้วยไอศกรีม ลักษณะคล้ายคลึงกับไอศกรีม อายุการเก็บรักษาในตู้เย็นแบบแช่แข็งได้ 6 เดือน ร้านรับไปจำหน่ายจำเป็นจะต้องมีตู้แช่ ที่สามารถโชว์สินค้าได้ โดยเลือกฝากขายในร้านที่มีตู้แช่อยู่แล้ว เพราะไม่มีเงินทุนเพียงพอ ในการลงทุนตู้แช่ให้กับทางร้าน ส่วนผลประโยชน์ก็อยู่ที่ข้อตกลงทำร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันมีกำไรหลังหักต้นทุนค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ30% - 40%

สำหรับยอดขายข้าวหมากเย็น ตั้งไว้ที่ประมาณ 20-30 ถ้วยต่อวันต่อสาขาในช่วงแรก ตอนนี้กำลังการผลิตภายในครัวเรือน สัปดาห์ละ 1,000 ถ้วย ถ้ามีออร์เดอร์จำนวนมาก อาจจะต้องลงทุนและเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น ซึ่งแผนในอนาคตที่วางไว้ต้องการส่งออกไปจำหน่ายในร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา และหาวิธีการยืดอายุการเก็บรักษา โดยได้รับคำปรึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง

โทร.08-6544-9898 ,www.yaii.in.th