สถาบันอาหารเผยไม่ใช่เรื่องง่ายย้ายโรงงานอาหารในไทยไปพม่า แถมเผชิญอุปสรรคหลายด้าน ทั้งแรงงาน และเทคโนโลยี ชี้ 5 ปีย้ายฐานยังยาก พบแรงงานพม่าเลือกทำงานในไทยจากค่าแรงที่สูงกว่า
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไปยังประเทศพม่าว่า ปัจจุบันยังมีอุปสรรคหลายด้านที่เกิดขึ้นกับอาเซียน เช่น การทำความเข้าใจเรื่องภาษา และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน โดยจะเห็นว่าหลังจากที่ประเทศพม่าเปิดประเทศทำให้มีประเทศขนาดใหญ่เล็งเห็นถึงศักยภาพทางการค้า และเข้าเปิดตลาดมากขึ้น ดังนั้น ภาครัฐฯ ควรจะเข้าไปเจรจาการค้ากับผู้นำระดับสูงของพม่าเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย
“ประเทศพม่าถือว่ามีความได้เปรียบในเรื่องทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ รวมถึงทรัพยากรพลังงานธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตสินค้า แต่หากผู้ประกอบการไทยจะย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมอาหารเข้าไปในประเทศพม่าถือเป็นเรื่องยาก เนื่องจากติดปัญหาด้านเทคโนโลยีการผลิต ทักษะฝีมือแรงงาน ซึ่งเชื่อว่าภายใน 5 ปีนี้โอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะย้ายโรงงานผลิตนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารที่ทั่วโลกให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานการผลิตสูง” นายเพ็ชร กล่าว
นอกจากนี้ ประเทศที่ถือเป็นตลาดหลักของไทย 3 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป จะให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานการผลิตก่อนนำเข้าสินค้าประเภทอาหารเป็นอย่างมาก โดยต้องรู้แหล่งที่มาของวัตถุดิบ ประเทศผู้ผลิต และเทคโนโลยีที่ใช้ ซึ่งประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น หากผู้ประกอบการจะย้ายฐานการผลิตไปพม่า อาจจะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าของตนใหม่
ผู้อำนวยการสถาบันอาหารยังกล่าวต่อว่า เรื่องแรงงานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะขาดแคลน เนื่องจากแรงงานพม่าจะเลือกเข้ามาใช้แรงงานในประเทศไทยเนื่องจากอัตราค่าแรงงานที่สูงกว่า กล่าวคือ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่จะแบ่งสัดส่วนค่าแรงงานไว้ที่ 3-5% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมอยู่ที่ 10-15%
