“มดดี๊” ครั้งแรกขนมไทย ยืดอายุนาน... เปิดตลาดส่งออก

ที่ผ่านมา ข้อจำกัดสำคัญของขนมไทย คือ อายุการเก็บรักษาสั้น จึงไม่สามารถกระจายสินค้าไปขายยังพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศได้ แต่ด้วยนวัตกรรมถนอมอาหาร คิดค้นโดยแบรนด์ “มดดี๊” (Moddit) ช่วยยืดอายุขนมไทยได้นานกว่า 4 เดือน แถมไม่สูญเสียรสชาติต้นตำรับ ถือเป็นผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

ขนมไทยแบรนด์ “มดดี๊” บุกเบิกโดย “ณัฐดนัย รุจิรา” หนุ่มชาวเพชรบุรี ที่ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์อาหารโดยตรง และผ่านประสบการณ์ทำงานสายแปรรูปอาหารในองค์กรใหญ่มายาวนาน

โดยเทคนิคที่นำมาใช้ถนอมขนมไทย คือ “hurdle technology” ซึ่งเป็นการผสมผสานกระบวนการถนอมอาหารหลายๆ วิธีเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งอบ แยกอากาศ และบรรจุในสุญญากาศ เป็นต้น

ณัฐดนัย เผยว่า ใช้เวลาวิจัยและพัฒนาสูตรการถนอมขนมไทยอยู่นานร่วมปี กับเงินลงทุนนับ 7 หลัก นำร่องด้วยขนมไทย 4 ชนิด ได้แก่ อาลัว วุ้นกรอบ ขนมผิง และกลีบลำดวน สามารถเก็บไว้กินได้นานถึง 4 เดือน ในขณะที่ขนมไทยที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป เก็บได้ประมาณ 15 วัน

“เทคนิคที่ผมใช้ถนอมอาหาร ไม่ได้ใช้เครื่องจักรราคาแพง หรือเทคโนโลยีขั้นสูงแต่อย่างใด อุปกรณ์ต่างๆ ล้วนเป็นเครื่องที่ใช้ทำขนมไทยอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การปรับกระบวนการผลิตของขนมแต่ละชนิดให้สามารถมีอายุยาวนานขึ้น และต้องคัดขนมไทยชนิดที่เหมาะสมด้วย ส่วนเรื่องวัตถุดิบ หรือส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ทำขนมเหมือนต้นตำรับทุกอย่าง ดังนั้น รสชาติ หรือกลิ่นของขนมที่ออกมา จึงเหมือนดั้งเดิมทุกประการ” หนุ่มเมืองเพชรบุรี เสริม

ด้านลูกค้าเป้าหมายนั้น ต้องการผลักดันไปสู่ตลาดส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มชาวเอเชีย ซึ่งชื่นชอบขนมไทยอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมา หากินขนมไทยได้ยาก เพราะติดปัญหาเรื่องอายุเก็บรักษาสั้น โดยช่องทางตลาด กำลังติดต่อขอวางขายในห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าของฝาก สนามบิน และออกงานแสดงสินค้าอาหาร เป็นต้น

รูปแบบจะเน้นทำเป็นขนมไทยชิ้นเล็กๆ เหมาะจะเป็นขนมกินเล่น เบื้องต้น มีบรรจุภัณฑ์ด้วยกัน 2 ขนาด ได้แก่ ถุงใหญ่ น้ำหนัก 100 กรัม ราคา 85 บาท และถุงเล็ก น้ำหนัก 60 กรัม ราคา 50 บาท เมื่อเทียบในปริมาณเท่ากันกับขนมไทยที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป มูลค่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว

สำหรับแรงงานผลิต และแหล่งวัตถุดิบนั้น ใช้ในท้องถิ่น จ.เพชรบุรี ซึ่งถือเป็นเมืองขนมไทยชื่อดังระดับประเทศ โดยได้ไปสร้างฐานผลิตในชื่อกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมหวานเพชรบุรี มีมาตรฐานการผลิตผ่านระดับ อย.และเตรียมยกระดับสู่ขั้นส่งออกต่อไป

ณัฐดนัย ทิ้งท้ายว่า ในอนาคตเตรียมจะพัฒนาการถนอมขนมไทยชื่อดังชนิดอื่นๆ ตามมา เช่น หม้อแกง ฝอยทอง มะพร้าวแก้ว ฯลฯ รวมถึง ขยายไปยังอาหารประเภทอื่นๆ เช่น ผลไม้ และขนมคดเคี้ยว เป็นต้น โดยรักษาจุดเด่นเรื่องนวัตกรรมยืดอายุการเก็บรักษา และรสชาติแบบต้นตำรับ สำหรับมุ่งขายตลาดสินค้าของฝาก และส่งออกไว้เช่นเดิม

@@@@@@@@@@@@@@@@@@

โทร.032-401-521 หรือ www.moddiithai.com