xs
xsm
sm
md
lg

“อีชัวร์” มิติใหม่ตรวจธาลัสซีเมีย ฝีมือแพทย์ไทยคุณภาพระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชุดตรวจ “อีชัวร์”
ผลงานวิจัยของแพทย์ไทย คิดค้นชุดตรวจโรคธาลัสซีเมีย ฮีโมโกลบินอี (Thalassemia HbE) ภายใต้แบรนด์ “อีชัวร์” (E-sure) คุณสมบัติใช้งานง่าย สะดวก ประหยัด และรวดเร็วกว่าผลิตภัณฑ์ต่างประเทศ รวมถึง ประสิทธิภาพตรวจสอบแม่นยำกว่า นับเป็นนวัตกรรมระดับโลกที่นอกจากจะมีศักยภาพทางการตลาดสูงแล้ว ยังสร้างโอกาสทางสังคมให้คนทั่วไปเข้าถึงการตรวจโรคธาลัสซีเมียมากยิ่งขึ้น
นายแพทย์พิเชฐ นำพูลสุขสันต์
นายแพทย์พิเชฐ นำพูลสุขสันต์ ผู้บริหาร บริษัท มิตร เมดดิคอล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย “อีชัวร์” เผยข้อมูลให้ฟังว่า โรคธาลัสซีเมีย ชนิดฮีโมโกลบินอี พบมากในประเทศไทย เฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 หรือจากคนไทย 100 คน จะมี 20 คน เป็นพาหะโรคชนิดนี้ ซึ่งปกติจะไม่แสดงอาการ แต่เมื่อแต่งงาน หากคู่สมรสเป็นพาหะเช่นกัน อาการจะไปปรากฏที่ลูก ซึ่งเป็นที่มาของโรคต่างๆ เช่น โลหิตจาง ตับม้ามโต ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น ตั้งแต่ พ.ศ.2545 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุข จึงส่งเสริมให้คู่สมรสตรวจหาธาลัสซีเมียก่อนแต่งงาน รวมถึง กำหนดให้สตรีตั้งครรภ์ทุกรายต้องตรวจหาโรคนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ชุดตรวจต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งขั้นตอนตรวจค่อนข้างยุ่งยาก และต้องตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น กระทั่ง ทางบริษัทได้พบเจอผลงานวิจัยการตรวจธารัสซีเมีย ฮีโมโกลบินอี ให้ง่ายและสะดวกขึ้นของ “ศ.ดร.ต่อพงศ์ สงวนเสริมศรี” คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคธาลสซีเมียอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้เกิดความสนใจอย่างยิ่ง เพราะมองว่า มีโอกาสทางการตลาดสูง และยังมีประโยชน์แก่คนจำนวนมาก ดังนั้น ได้ติดต่อไปยัง ศ.ดร.ต่อพงศ์ เพื่อขอนำผลงานวิจัยดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

@@@ แจงจุดเด่นง่าย สะดวก แม่นยำกว่า @@@

นายแพทย์หนุ่ม เผยต่อว่า มูลค่าลงทุนในการพัฒนาชุดตรวจ “อีชัวร์” กว่า 7 หลัก ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) มีคุณสมบัติเด่น คือ ใช้งานง่าย เพียงแค่เจาะเลือด 1 หยด ใส่ไว้ในขวดแก้ว แล้วมาติดเข้ากับหลอดพลาสติกของ “อีชัวร์” เพื่อผ่านสารละลาย รอผลเพียง 5-10 นาที หากน้ำในขวดพลาสติกเปลี่ยนเป็นสีแดง แสดงว่า มีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่เปลี่ยนสี หมายถึง ปลอดภัย โดยขั้นตอนต่างๆ บุคลากรทางการแพทย์ทั่วไป เช่น นางพยาบาล หากได้รับการอบรม สามารถทำหน้าที่ตรวจได้ ซึ่งความแม่นยำของผลตรวจ สูงถึง 99.1% นอกจากนั้น หลอดพลาสติกที่ใช้ตรวจแล้ว สามารถนำไปทำความสะอาด แล้วกลับมาใช้ซ้ำได้อีกถึง 10 ครั้ง ช่วยประหยัดต้นทุน ในขณะที่ ชุดตรวจของต่างประเทศ ต้องดำเนินการตรวจในห้องตู้อบ และทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ใช้เวลารอผลถึง 20-30 นาที ความแม่นยำอยู่ที่ 94%

“การทำตลาดของเรา จะเน้นขายไปยังสถานพยาบาลต่างๆ โดย 1 ชุด บรรจุหลอดตรวจ 10 หลอด ราคาประมาณ 150-180 บาทต่อชุด ซึ่งเป็นราคาเทียบเท่าสินค้านำเข้า แต่ของเราประสิทธิภาพเหนือกว่า โดยเราจะทำเป็นตารางข้อมูลเปรียบเทียบแต่ละด้านให้เห็นชัดเจน เพื่อให้เห็นถึงคุณสมบัติที่เหนือกว่าในทุกๆ ด้าน โดยข้อมูลทั้งหมดเป็นมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่สถานพยาบาลที่จะนำไปใช้” นายแพทย์พิเชฐ เสริม
ผลการตรวจ หากไม่เปลี่ยนสี (หลอดซ้าย) แสดงว่า ปลอดภัย แต่หากเปลี่ยนเป็นสีแดง (หลอดกลางและขวา) แสดงว่ามีความเสี่ยง
@@@ นำร่อง รพ. เล็งขยายสู่ชุมชน @@@

เจ้าของธุรกิจ ระบุด้วยว่า มาตรฐานการผลิตขณะนี้ ผ่าน อย. แล้ว และกำลังขอ GMP ส่วนการตลาด เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์เมื่อประมาณเดือนธันวาคมปีที่แล้ว (2554) เบื้องต้นนำร่องเสนอขายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ มีสถานพยาบาลสั่งผลิตภัณฑ์ไปใช้งานแล้วกว่า 10 แห่ง นอกจากนั้น กำลังขยายตลาดไปสู่ระดับชุมชน เช่น สถานีอนามัย หรือหน่วยแพทย์ชุมชน เป็นต้น

“ผลตอบรับที่ผ่านมา ถือว่า อยู่ในระดับที่ดีมาก เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่โรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเบื้องต้น เรานำร่องในเขตกรุงเทพฯ ส่วนขั้นต่อไป อยากจะขยายไปสู่สถานพยาบาลในชนบทต่างๆ เพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงการตรวจโรคนี้ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น แผนในอนาคต เตรียมจะส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน ซึ่งประชากรมีอัตราเสี่ยงเป็นพาหะธาลัสซีเมียสูงเช่นกัน ควบคู่กับพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความง่ายและสะดวกในการตรวจมากขึ้นด้วย” นายแพทย์พิเชฐ ระบุ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กำลังโหลดความคิดเห็น