OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยกระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน ได้มีรายได้จากสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาและฝีมือ การก้าวย่างของโอทอป ที่ผ่านมา มีทั้งกลุ่มผู้ผลิตที่ประสบความสำเร็จ และกลุ่มที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ส่วนใหญ่ปัญหาของโอทอป คือ การกระจายสินค้าเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ
ดังนั้น ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานที่ดูแลผลิตภัณฑ์โอทอป ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึง ร้าน OTOP 5 ดาว ของ “นางกาญจนา เง่าสวัสดิ์” (พี่บัว ) ร้านที่ได้พยายามรวบรวมสินค้าโอทอประดับ 5 จากทุกภาคของประเทศไทย มาไว้ที่ร้าน ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ที่ ศูนย์การค้า เดอะพาลาเดียมเวิล์ดช้อปปิ้ง ชั้น 3 โซน B สี่แยกประตูน้ำ กรุงเทพฯ
นาง กาญจนา เล่าให้ฟังว่า เดิมพี่บัว เรียนจบด้านกฎหมาย และมีโอกาสทำงานเป็นทนายความอยู่ได้ 3 ปี ก่อนจะหันมาเอาดีด้านทำธุรกิจ เริ่มจากเปิดร้านขายหินอ่อน หินแกรนิต และด้วยอายุที่มากขึ้น ได้พบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย ทำให้รู้สึกรักประเทศไทย เพราะประเทศให้อะไรกับเรามากมาย ซึ่งเราน่าจะได้ทำอะไรให้กับพื้นแผ่นดินที่เรารักแห่งนี้บ้าง เพื่อเป็นการตอบแทนแผ่นดินเกิด และสิ่งที่เราทำได้และถนัด คือ ขายของ
ทั้งนี้ จึงเป็นที่มาของร้าน OTOP 5 ดาว ร้านขายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่คัดเลือกสินค้าที่ผลิต โดยฝีมือชาวบ้าน มายกระดับ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นสื่อกลางในการช่วยกระจายรายได้ และได้ช่วยเหลือชาวบ้าน คนไทยด้วยกันที่ไม่มีโอกาสหรือ ช่องทางการขายเหมือนกับเราได้มีโอกาสในการขายเช่นเดียวกับเรา จึงได้ตัดสินใจ ไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน โอทอป ที่อยู่ในแหล่งผลิตในชนบท มาจำหน่าย
สำหรับ การคัดเลือกสินค้า สิ่งสำคัญ คือ ต้องเป็นงานฝีมือของชาวบ้าน เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเรียกได้ว่า เกือบ 100% ก็ว่าได้ ซึ่งสินค้าต้องตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้า ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าชาวต่างชาติชื่นชอบ คือ ต้องเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถไปหาซื้อได้ในประเทศไหน นอกจากประเทศไทย ส่วนหนึ่งสามารถนำไปเป็นของขวัญ ของฝาก ให้กับคนรู้จัก หรือ เป็นงานฝีมือที่เป็นของแต่งบ้าน เพราะในต่างประเทศถ้าเป็นงานฝีมือ จะราคาแพง ในขณะที่บ้านเรางานฝีมือราคาไม่แพง โดยเฉพาะถ้าเป็นสินค้าชุมชนด้วยแล้วราคาไม่แพง
โดยสินค้าที่นำมาวางขายที่ร้าน OTOP 5 ดาว ของพี่บัว ประกอบไปด้วย งานเซรามิคเขียนลายเบญจรงค์ งานดอกไม้ประดิษฐ์ โอ่งหุ้มผ้าไหม เครื่องประดับลูกปัด และหินสี ตุ๊กตาช้างผ้าไหม กุญแจ ถ้วยกาแฟเพนท์ลาย เป็นต้น โดยสินค้าที่ขายภายในร้านจะมีทั้งที่ขายปลีก และขายส่ง ถ้าลูกค้าต้องการจำนวนมาก ทางพี่บัวติดต่อแหล่งผลิตในชุมชนให้ เพราะสิ่งที่พี่บัวต้องการในวันนี้ เพียงแค่ต้องการจะเป็นสื่อกลางในการกระจายสินค้าโอทอป ไปยังตลาดต่างประเทศ
"สินค้าของพี่ จะขายได้ดีในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ในขณะที่คนไทยเองมองไม่เห็นคุณค่าของงานฝีมือแบบไทย เคยคิดว่าอยากจะเห็นคนไทยซื้อสินค้าของร้านเราบ้าง แต่ที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยได้เห็นลูกค้าคนไทยมาซื้อสินค้าของทางร้าน แต่โชคดีที่เลือกเปิดร้านที่ประตูน้ำ เพราะเป็นแหล่งชอปปิ้งของชาวต่างชาติ ซึ่งการที่เราเปิดร้านที่ หลายคนมองว่า คนเดินน้อย แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่ดี เพราะชาวต่างชาติชอบ จะได้เลือกซื้อสินค้าได้สะดวกไม่ต้องไปเบียดเสียด กันเหมือนการช้อปปิ้งในศูนย์การค้าแพลทตินั่ม”
ในส่วนของยอดขายต้องยอมรับว่าในช่วงหลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบของบ้านเมือง ทำให้กระทบกับยอดขายเพราะต้องปิดร้านไปนาน 2-3 เดือน แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือ จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้มาเปิดกิจการได้อีกครั้ง ตอนนี้ยอดขายก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่จังหวะถ้ามีนักท่องเที่ยวมาเดินเยอะก็ขายได้เยอะ กำไรที่ได้ประมาณ 35% บางอย่างที่ขายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้กำไรถึง 50%
สำหรับ ร้าน OTOP 5 ดาว ของพี่บัวเปิดให้บริการอยู่ ที่ศูนย์การค้าเดอะพาลาเดียมเวิล์ด ช้อปปิ้ง มานานกว่า 7 ปี สินค้าที่ขายภายในร้าน จะเป็นคัดเลือกมาขายด้วยตัวเอง เดิมไม่ได้ชื่อพี่บัว แต่ด้วยความที่ทำงานปั้นดอกบัวได้สวย หลายคนเรียกแก่ว่า พี่บัว ซึ่งถ้าใครสนใจทำงานปั้นดิน แก่ก็ยินดีที่จะสอนให้ฟรี ไม่คิดค่าเรียน เพราะอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ คนที่ต้องการจะมีอาชีพ และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งพี่บัวย้ำเสมอ คือ อยากได้เป็นสื่อกลางในการสร้างชื่อผลิตภัณฑ์คนไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
โทร.08-1654-6242
