นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงผลการตรวจสอบการใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการและครอบครัว พบว่าเกิดการรั่วไหลของการจ่ายยาในระบบ ซึ่งเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต
จากการตรวจสอบพบว่ามีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ การสวมสิทธิ์ โดยให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ไปสวมสิทธิ์การรักษาพยาบาลแทน การยิงยา คือการที่เจ้าหน้าที่จ่ายยาที่ไม่จำเป็นให้กับผู้ป่วย โดยจ่ายในลักษณะสิ้นเปลือง เน้นการจ่ายยานอกบัญชีหลักที่มีราคาแพง โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่ายยา โดยได้รับผลประโยชน์เป็นเงินตอบแทน สิ่งของ หรือการเดินทางไปต่างประเทศ และการช้อปปิ้งยา คือการให้ข้าราชการและครอบครัวที่มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาล เดินสายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อขอเบิกยาในระยะเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อนำยาไปขายต่อ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบแพทย์เข้าข่ายทุจริตแล้ว 1 คน เป็นแพทย์โรงพยาบาลย่านปริมณฑล ซึ่งได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการแล้ว
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้รัฐเสียหายปีละกว่า 60,000 ล้านบาท โดยนับแต่ปี 2552 จนถึงปัจจัย เป็นผลให้กรมบัญชีกลาง และกระทรวงสาธารณสุข ต้องปรับปรุงการรักษาพยาบาลให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้บริการต้องลงนามรับยา และรับทราบค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองทุกครั้ง และผู้ป่วยต้องมาเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยตนเองทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนไปยังข้าราชการและครอบครัว หากพบว่ามีการกระทำผิดจะถูกถอนสิทธิ์ และดำเนินคดีอาญา
จากการตรวจสอบพบว่ามีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ การสวมสิทธิ์ โดยให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ไปสวมสิทธิ์การรักษาพยาบาลแทน การยิงยา คือการที่เจ้าหน้าที่จ่ายยาที่ไม่จำเป็นให้กับผู้ป่วย โดยจ่ายในลักษณะสิ้นเปลือง เน้นการจ่ายยานอกบัญชีหลักที่มีราคาแพง โดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่ายยา โดยได้รับผลประโยชน์เป็นเงินตอบแทน สิ่งของ หรือการเดินทางไปต่างประเทศ และการช้อปปิ้งยา คือการให้ข้าราชการและครอบครัวที่มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาล เดินสายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อขอเบิกยาในระยะเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อนำยาไปขายต่อ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบแพทย์เข้าข่ายทุจริตแล้ว 1 คน เป็นแพทย์โรงพยาบาลย่านปริมณฑล ซึ่งได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการแล้ว
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้รัฐเสียหายปีละกว่า 60,000 ล้านบาท โดยนับแต่ปี 2552 จนถึงปัจจัย เป็นผลให้กรมบัญชีกลาง และกระทรวงสาธารณสุข ต้องปรับปรุงการรักษาพยาบาลให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้บริการต้องลงนามรับยา และรับทราบค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองทุกครั้ง และผู้ป่วยต้องมาเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยตนเองทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนไปยังข้าราชการและครอบครัว หากพบว่ามีการกระทำผิดจะถูกถอนสิทธิ์ และดำเนินคดีอาญา